พิจารณาให้มีการผ่อนคลาย นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวว่าในสัปดาห์หน้า จะมีการประชุมศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 22 ก.พ. 64 จะมีข้อเสนอให้ศบค.ชุดใหญ่ พิจารณาให้มีการผ่อนคลายใน 2 รูปแบบ คือ 1.การแข่งขันกีฬาที่มีคนเข้าชม รวมถึงการเปิดสถานที่ต่างๆ กิจการต่างๆ การขายให้ดื่ม และ 2.การขยับเปลี่ยนสี
นำเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 22 ก.พ. พร้อมกับกล่าวต่อว่า ที่ประชุมจะคุยกัน 2 ประเด็นนี้ ที่สุดแล้ว ถ้าบอกว่าผ่อนคลายจริงๆ อาจมีการให้ทำกิจกรรมนี้ได้ กิจกรรมนั้นไม่ได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการเทียบเคียงกัน จะมีความไม่สม่ำเสมอ ถ้ามีการใช้หลักการผ่อนคลายเรื่องสี วิธีเปลี่ยนสีลงมาจะดีกว่าหรือไม่ ซึ่งในที่ประชุมมีการโน้มเอียงมาทางนี้ ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจ จะมีการประชุมกันเพื่อที่จะทำให้มีข้อสรุปก่อนที่จะนำเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 22 ก.พ. นี้
พูดคุยกับกระทรวงสาธารณสุข พร้อมกันนี้ยังกล่าวอีกด้วยว่าเรื่องนี้ต้องพูดคุยกับกระทรวงสาธารณสุข ที่เขาจะมีชุดข้อมูล มีสถิติที่จะมีข้อกำหนด ข้อบ่งชี้ต่างๆ ว่าจะให้เปลี่ยนสีอะไรอย่างไร กให้เสนอขึ้นมาเพื่อเสนอศบค.ชุดใหญ่ที่มี ท่านนายกฯเป็นประธานได้วินิจฉัย ซึ่งเราจะมีการคัดกรอง หรือคุยกันอย่างละเอียดอีกทีหนึ่ง
มีการเสนอวิธีการกักตัว ต่อข้อซักถามถึงเรื่องที่มีการเสนอการจัด Jet Ski World Cup Season 2020-2021 & Jet Ski Pro Tour 2021 เป็นการแข่งขันกีฬาระดับโลก โดยมีคนไทยเป็นแชมป์ด้วยนั้น นายแพทย์ทวีศิลป์ เผยว่า มีการเสนอวิธีการกักตัว หรือควอรันทีนคนเข้ามา14 วัน นักกีฬาต่างชาติได้รับการพูดคุย และก็มีข้อห่วงใย ฝากให้ดูแลกันให้ดี ก็จะนำเสนอเข้า ศบค.วันที่ 22ก.พ.นี้ เพื่อขออนุมัติต่อไปเช่นกัน
เกิดความเสี่ยงนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย นอกจากนี้ นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังได้พูดถึงเรื่องการล้างมือของประชาชนอีกด้วย ถึงผลสำรวจการตลาดเพื่อสังคม จัดทำโดยกรมควบคุมโรค กับสสส. พบว่า 1 ใน 4 ของคนไทย ไม่ค่อยล้างมือก่อนกินข้าว ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นกิจกรรมที่ทำให้คนต้องนั่งใกล้ชิดกัน จึงเกิดความเสี่ยงนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย พร้อมฝากถึงประชาชนให้ดูแลสุขอนามัยส่วนตัวตรงนี้ด้วย
ถ้าพร้อมสามารถฉีดให้ประชาชนภายในเดือน ก.พ. นี้แน่นอน ทางด้าน นายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยถึงเรื่องวัคซีนโควิด-19 ยืนยันว่าบริษัทซิโนแวคเป็นผู้ผลิตวัคซีนส่งไทยจำนวน 2 แสนโดสแรก จะผลิตเสร็จวันที่ 20 ก.พ. ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะส่งถึงไทยในวันที่ 24 ก.พ. หลังจากนั้นกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะสุ่มเอาวัคซีนไปตรวจคุณภาพว่าเป็นไปตามที่ยื่นขึ้นทะเบียนหรือไม่ ถ้าทุกอย่างพร้อมสามารถฉีดให้ประชาชนภายในเดือน ก.พ. นี้แน่นอน
เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ส่วนเรื่องการขึ้นทะเบียนที่ไทยนั้นได้มีการเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว และได้เชิญ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมด้วย ผอ.กองยา มาหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ และท่านยืนยันว่าเอกสารที่ได้รับจากผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 เพียงพอที่จะขึ้นทะเบียนภายใต้สภาวการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้
เครดิตภาพ : ประชาชาติธุรกิจ, เดลินิวส์, www.bbc.com
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////