ผบช.ภ.1 นำแถลงเหตุจับกุมหนุ่มผลิตและค้าอาวุธปืนเถื่อนรายใหญ่ย่านชานเมืองได้ของกลางจำนวนมากรวมถึงมีเอ็ม16 ของทางราชการด้วย
วันที่ 11 มกราคม 2564 พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี และ พ.ต.อ.นิทัศน์ จิตตวิทยานุกูล ผกก.สภ.ลาดหลุมแก้ว ได้แถลงการณ์จับกุมนายธีรภัทร ทีบสว่างอายุ 30 ปีอาศัยอยู่ห้องเช่าเลขที่ เลขที่ 64/44 ม.5 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว
โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนอย่างถูกกฎหมาย, ผลิต ประกอบและซ่อมแซม รวมทั้งสั่ง และนำเข้า มี หรือ จำหน่ายอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืน สำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน, มีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 11, พกพาอาวุธมีดไปในเมืองบนพื้นที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็น
นายธีรภัทร หรือกอล์ฟ ถูกจับกุมด้วยของกลางซึ่งเป็นอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน4กระบอก อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์6กระบอก อาวุธปืน BLANKGUN 3กระบอก เครื่องกระสุนปืนชนิดต่างๆรวมจำนวน 242 นัด ท่อเหล็กสำหรับกรึงและทำลำกล้องปืนจำนวน3ชิ้น โครง BLANKGUN สำหรับดัดแปลงอาวุธปืนรุ่นไทยประดิษฐ์จำนวน 5โครง เครื่องกลึงลำกล้องปืนจำนวน1เครื่อง แท่นอัดไฮโดรลิค จำนวน 1 เครื่อง สว่าน จำนวน 1 ตัว เครื่องเจีย จำนวน 1 ตัว ปากกาสำหรับจับอุปกรณ์ จำนวน 1 ตัว
ตำรวจ สภ.ลาดหลุมแก้ว ได้รับการแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือจากหญิงสาว ที่บริเวณห้องเช่าเลขที่9 ซ.แคนนอนบอล ม.3 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว กล่าวว่าเจ้าของห้องเช่าได้เชิญให้นายธีรภัทรออกจากห้องเช่า แต่นายธีรภัทร์ไม่พอใจจึงมีปากเสียงกับเจ้าของห้อง หลังจากนั้นตำรวจชุดสายตรวจได้เข้าไประงับเหตุ แต่ว่าไม่พบนายธีรภัทร สืบทราบว่านายธีรภัทรขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียนทน 8289 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเข้ามาจอดอย่างมีพิรุธ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจขอให้หยุดรถเพื่อตรวจค้น จากการตรวจค้น พบอาวุธปืนเครื่อง กระสุนปืน และมีด อยู่ในรถยนต์ของนายธีรภัทร
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลขอตรวจสอบภายในห้องเช่าของนายธีรภัทร ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ได้มีเบาะแสเกี่ยวกับนายธีรภัทรแล้วว่า มีพฤติกรรมการลักลอบผลิตอาวุธปืนนำเข้าส่งออก และขายอย่างผิดกฎหมายด้วย ธีรภัทรชี้แจงว่า ตนจะขนของย้ายไปบ้านเช่าเลขที่ 29/56 ซ.ผู้ใหญ่สมาน ม.2 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าจับกุมได้ก่อนเคลื่อนย้ายอาวุธปืนทั้งหมด
จากการสอบสวนนายธีรภัทรได้ทราบว่า ตนได้รับอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน4 กระบอกซึ่งมีตราสัญลักษณ์ของทางราชการ มาจากนายเต้ ในจังหวัดระยอง ซึ่งได้มีการติดต่อกันผ่าน Facebook เพื่อนำมาให้เมื่อประมาณสองเดือนที่ผ่านมา เสร็จสรรพในราคา 8000 บาท โดยนำมาซ่อมเพื่อนำไปขายต่อในราคา 30,000 ถึง 40,000 บาท ส่วนอาวุธปืนBLANKGUN ก็ได้ซื้อมาจากทาง Facebook ในราคา4000ถึง 5000 บาท แต่เมื่อแปลงสภาพเป็นอาวุธปืนแล้วจะสามารถขายได้ในราคาจริง 10,000 ถึง 15,000 บาทส่วนเครื่องกระสุนปืนต่างๆ ได้ซื้อมาจากทาง Facebook รวมแล้วราคาประมาณ 3000 บาท
โดยโครงอาวุธปืนBLANKGUN ที่นำมาแปลงเป็นอาวุธปืนไทยประดิษฐ์มีทั้งหมดจำนวน5โครง โดยนายธีรภัทรเล่าว่า ตนเคยขายอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ไปแล้วบางส่วนผ่านช่องทาง Facebook ประมาณ 15 กระบอก หากการส่งในครั้งนั้นสามารถเล็ดลอดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ มูลค่าของอาวุธปืนไทยประดิษฐ์นั้นจะพุ่งสูงถึง 350,000 บาท โดยฝ่ายสืบสวนสภ.ลาดหลุมแก้ว จะทำการขยายผลเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการนำอาวุธปืนที่ไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนไปก่ออาชญากรรม
ที่มา https://www.posttoday.com/social/local/642491