ประท้วงที่ประเทศเมียนมา ต้องบอกว่าสถานการณ์การประท้วงที่ประเทศเมียนมา ยังคงร้อนระอุอย่างไม่หยุดยั้ง หลังจากที่ทางกองทัพเข้าควบคุมตัว นางออง ซาน ซูจี ก่อนจะทำการรัฐประหารขึ้น อย่างที่เมืองย่างกุ้ง ยังคงมีประชาชนออกมารวมตัวกันประท้วงยาวนานต่อเนื่อง 3 สัปดาห์
เรียกร้องให้ถูกปล่อยตัว นอกจากนี้ยังมีผู้ประท้วงส่วนหนึ่งสวมชุดขาวมารวมตัวกันนั่งสวดมนต์ที่หน้าบ้านพักของ นางออง ซาน ซูจี เพื่อขอให้เธอปลอดภัยและเรียกร้องให้ถูกปล่อยตัวให้เร็วที่สุด ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่ากองทัพจะบังคับใช้กฎหมายคุมขัง โดยไม่พิจารณาคดีกับ นางออง ซาน ซูจี กฎหมายที่เพิ่งประกาศบังคับใช้ภายหลังยึดอำนาจ หรือไม่เปิดโอกาสให้นำทนายความเข้าไปว่าความในศาลได้ เพราะที่ผ่านมาการพิจารณาคดีครั้งแรก ทนายความของ นางออง ซาน ซูจี ก็ไม่สามารถเข้าร่วมได้
ตำรวจยิงปืนใส่ผู้ชุมนุม ล่าสุดสถานการ์ในเมืองย่างกุ้ง ดูจะมีความเคลื่อนไหวที่เข้มข้นและดุเดือดมากกว่าทุกวัน โดยมีประชาชนออกมารวมตัวกันประท้วงกันเช่นเดิม แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ชุลมุนเมื่อตำรวจยิงปืนใส่ผู้ชุมนุมแบบไม่เลือกหน้า แต่รายงานเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
จับกุมนักข่าว นอกจากนี้นักข่าวอิสระชาวเมียนมารายหนึ่งได้รายวานว่า หลังจากที่ตำรวจยิงปืนใส่ผู้ที่มาชุมนุมแล้ว ยังได้จับกุมตัวชายคนหนึ่งที่ระบุภายหลังว่าเป็นนักข่าวชาวญี่ปุ่น ชื่อ ยูกิ คิตาซูมิ จากสำนักข่าว The Japan Time นอกจากนี้ตำรวจยังพยายามจับกุมนักข่าวรายอื่นๆ อีกด้วย แต่มีผู้ชุมนุมมาช่วยพากันหลบนี้ เบื้องต้นมีรายงานอีกว่าตำรวจนั้นได้จับกุมนักข่าว 2 คน และประชาชนอีกว่า 10 คน
กดดันกองทัพ ทางด้านโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น ออกมาแถลงถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ได้ทราบข่าวแล้ว แต่ตอนนี้กำลังรอการยืนยันข้อมูลรายละเอียด หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ชาวเมียนมาจึงยิ่งเรียกร้องให้ต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างญี่ปุ่นเองให้เข้ามากดดันกองทัพ
เป็นโมฆะ ในส่วนของกองทัพมีความเคลื่อนไหว คือ ประกาศให้ผลการเลือกตั้งที่พรรคเอ็นแอลดี ของ นางอองซาน ซูจี ชนะอย่างถล่มทลายเป็นโมฆะ สำนักข่าวอิรวดีรายงานว่าว่า อู เต็ง ซอ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่ที่ถูกแต่งตั้งโดยทหารระบุว่า ผลการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 ที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ เอ็นแอลดี นับว่าเป็นโมฆะ
กดดันกองทัพ ซึ่งก่อนหน้านี้ เร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของอินโดนีเซีย ได้ประกาศแผนการในการกดดันกองทัพ โดยให้จัดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็วที่สุด แต่แผนการนี้ถูกประชาชนและนักเคลื่อนไหวตั้งคำถาม และตอบโต้อย่างรุนแรง ซึ่งพวกเขามองว่าการจัดการเลือกตั้งใหม่ เท่ากับเป็นการให้ความชอบธรรมกับการก่อรัฐประหารของกองทัพ ที่ไม่ได้มีหลักฐานมาสนับสนุนข้อกล่าวหาที่ว่าพรรคเอ็นแอลดีโกงการเลือกตั้ง
ประณามการทำรัฐประหาร ด้าน นายจอ โม ตุน เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรเมียนมาประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า ขอประณามการทำรัฐประหารของกองทัพเมียนมา และเรียกร้องให้ประชาคมโลกสนับสนุน รัฐบาลเมียนมาที่รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย จึงทำให้บรรดาผู้ต่อต้านรัฐประหารต่างแสดงความชื่นชม พร้อมทั้งยกย่องนายจอ โม ตุน เป็นฮีโร่ และแสดงความขอบคุณผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ
เครดิตภาพ : ข่าวสด, www.newtv.co.th
/////////////////////////////////////////////////////////////////