ผู้ว่าฯภูเก็ตลงนามในคำสั่ง สั่งปิดสถานบันเทิงผับบาร์คาราโอเกะเที่ยงคืนส่วนร้านอาหารยังคงห้ามดื่มสุราและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์หลังเที่ยงคืน
วันที่ 11 มกราคม 2564 ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ได้ลงนามคำสั่งลำดับที่ 128 / 2564 ในเรื่องมาตรการการป้องกันการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ในละลอกใหม่ โดยได้ความเห็นชอบตามมติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดภูเก็ต จึงได้ออกคำสั่งเริ่มกำหนดมาตรการป้องกันเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ในจังหวัดภูเก็ต สั่งให้สถานบริการต่างๆอาทิเช่น ผับบาร์ คาราโอเกะ สถานบันเทิง และสถานประกอบการที่เปิดให้บริการคล้ายกับสถานบริการที่กล่าวมา ให้เปิดบริการได้ถึงเวลา 24:00 น. ส่วนร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม สวนอาหาร ศูนย์อาหารต่างๆ ยังคงห้ามบริโภคสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หลังเวลา 24:00 น.
โดยหากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตรา 51 แห่งพรบ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาทและหากมีความผิดตามมาตรา 52 แห่ง พรบ.โรคติดต่อ 2555 มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตามข้อกำหนดในมาตราที่ 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 ฉบับ 1 ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน2ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับโดยตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 20 มกราคม 2564 นี้หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
แม้ด้วยสถานการณ์โควิดตอนนี้ในประเทศไทยยังไม่ค่อยสู้ดีนัก เนื่องจากยังมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากเกิดการระบาดละลอกที่2ในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมาโดยการระบาดครั้งนี้เริ่มต้นจากตลาดกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งสถานที่นี้มีแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก ก่อนจะพบว่าได้มีการกระจายเชื้อออกไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ในตอนนี้มีผู้ป่วยสะสมยืนยันแล้ว 10,298 ราย ผู้ป่วยที่หายแล้ว 6428 ราย และผู้เสียชีวิตจำนวน 67 ราย
สำหรับสถานการณ์รอบโลกนั้น ก็ยังคงน่าเป็นห่วงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอัตราการติดเชื้อยังเพิ่มสูงขึ้นกว่า 500,000 รายต่อวัน ล่าสุดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นมากกว่า 90 ล้านคนแล้ว ยอดผู้เสียชีวิตทะลุ 1.93 ล้านคน ตอนนี้อเมริกายังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก นั่นคือกว่า 22.6 ล้าน คนเสียชีวิตแล้ว 3.8 แสนคน และตามมาด้วยประเทศอินเดีย บราซิล รัสเซีย และอังกฤษตามลำดับ
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่กระจายของโรคระบาด โควิด-19 ละลอกใหม่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ยังคงทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ยังมีความเสี่ยงในการติดเชื้ออยู่มาก ขณะนี้จังหวัดท่องเที่ยวต่างๆอย่างเช่น พัทยา ชลบุรี รวมถึง จังหวัดภูเก็ต ได้มีมาตรการยกระดับความเข้มข้นขึ้น เพราะหวังว่าจะสามารถระงับการแพร่กระจายเชื้อออกไปได้อย่างรวดเร็ว
สิ่งที่ตามมากับโรคระบาด โควิด-19 นี้นั่นคือ สภาพเศรษฐกิจที่ทรุดตัวอย่างรุนแรง ส่งผลให้ประชาชนในหลายหลายจังหวัดของประเทศไทย ยังคงต้องรับมือกับเศรษฐกิจที่แย่และรายได้ที่ลดน้อยลง ซึ่งเบื้องต้นรัฐบาลได้มีมาตรการล็อคดาวน์ในบางจังหวัดแล้ว แต่ไม่ใช่การล็อกดาวน์แบบเต็มร้อย ซึ่งจะเน้นไปที่ร้านอาหาร ผับบาร์ ร้านนวด ร้านสัก และสถานที่ต่างๆที่เป็นที่รวมตัวของคนหมู่มาก
โดยนายกตู่ ได้เริ่มประกาศมาตรการล็อคดาวน์เช่นนี้มาตลอด โดยเพิ่มขึ้นตามลำดับ แล้วจะใช้เกณฑ์ผู้ติดเชื้อของจังหวัดต่างๆพิจารณาเพื่อจะนำมาใช้มาตรการอย่างเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ แม้ทุกวันนี้จะปฎิเสธไม่ได้เลยว่า หลายคนก็ให้ความสำคัญต่อเรื่องปากท้องมากกว่า จึงดูไม่น่าแปลกใจว่าคนไทยจำนวนมากไม่กลัวโควิดอีกต่อไปแล้ว