โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ภายหลังจากที่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และ นายอานนท์ นำภา 2 ใน 4 แกนนำกลุ่มราษฎร ที่ถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังถูกฟ้องคดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ในความผิดตาม ป.อาญา ม.112 ม.116 และข้อหาอื่น พบว่าได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวหลายครั้ง นับตั้งแต่ถูกจับกุมมา จนทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเหตุใดผู้ที่ถูกคุมขังถึงสามารถใช้สื่อออนไลน์ได้
ไม่มีการใช้เครื่องมือสื่อสารภายในเรือนจำ ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ได้ทำการตรวจค้นภายในเรือนจำ พร้อมทั้งตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ และพบว่าไม่มีการใช้เครื่องมือสื่อสารภายในเรือนจำ จึงสันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็นการโพสต์ข้อมูลต่างๆ จากเครืองมือสื่อสารภายนอก และตอนนี้ได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้กับพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งสืบหาตัวบุคคลที่โพสต์ข้อความดังกล่าว
เขียนข้อความดังกล่าวเอง เบื้องต้นตัว นายพริษฐ์ เองก็เคยยืนยันว่า เป็นคนเขียนข้อความดังกล่าวเอง ให้กับเพื่อนที่อยู่ภายนอกเป็นคนโพสต์ข้อความเหล่านั้น
ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าพบผู้ต้องหา เรื่องนี้ ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เผยถึงเรื่องนี้ว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการรับข้อมูลมากจากการเข้าพบผู้ต้องหา เพราะปัจจุบันในช่วง โควิด-19 นั้น กรมราชทัณฑ์ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าพบผู้ต้องหาภายในเรือนจำ เว้นเสียแต่ทนายความ
ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ดังนั้นจึงเข้าใจได้ว่าทนายความน่าจะเป็นผู้รับข้อมูลมาจากผู้ต้องขัง และมาโพสต์ข้อความเอง หรือนำให้บุคคลอื่นที่สามารถเข้ารหัสเฟซบุ๊กของทั้ง นายพริษฐ์ และ นายอานนท์ ได้ โดยที่ผ่านมาได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว และได้รับการยืนยันจาก นายพริษฐ์ ว่าเป็นคนเขียนข้อความให้เพื่อนนำไปโพสต์มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยมีเอกสารลายมือรับสารภาพของ นายพริษฐ์
ใช้จ่ายภายในเรือนจำ ต่อข้อซักถามถึงกรณีภาพใบเสร็จจำนวน 626 บาท ที่ นายพริษฐ์ ซื้ออาหารภายในเรือนจำนั้น เลขานุการ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติของการใช้จ่ายภายในเรือนจำ ซึ่งมีการปรับจากเดิม 300 บาท ให้ได้ใช้วันละ 600 บาท ตั้งแต่ปีใหม่ 2564 ช่วงควบคุมการระบาดของโรค โควิด-19 เพราะห้ามญาติเข้าเยี่ยมผู้ต้องขัง และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายลงแล้วจะสามารถเข้าเยี่ยมได้ และปรับจำนวนเงินลงมาที่วันละ 300 บาท ดังเดิม
ผู้ต้องขังทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน แต่ในกรณีของ นายพริษฐ์ นั้น เป็นการที่พ่อ-แม่ซื้อของให้ลูกในวันแรกที่เข้าเรือนจำ ในกรณีแบบนี้การเข้าเรือนจำวันแรก จะมีการผ่อนปรยชนเรื่องวงเงินเล็กน้อย โดยเรื่องนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้ชี้แจงไปแล้วว่า ผู้ต้องขังทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ไม่มีใครได้อภิสิทธิ์ หรือพิเศษอะไร รวมถึงการปฏิบัติกับผู้ต้องขังทุกคนตามมาตรฐานเดียวกัน
ยื่นคำร้อง ส่วนในกรณีที่ทาง นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะทีมทนายความแกนนำกลุ่มราษฎร ได้ยื่นคำร้องขอประกันตัว นายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และ นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม 4 แกนนำกลุ่มราษฎร ที่ถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อยู่นั้น
ไม่อนุญาตให้ประกันตัว ล่าสุดทางด้าน นายนรเศรษฐ์ ทนายความ ได้โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ มีใจความว่า ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว กลุ่มราษฎร นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ กับพวก โดยให้เหตุผลว่า ไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม
เครดิตภาพ : ไทยรัฐออนไลน์, สยามรัฐ
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////