ข่าววันนี้ : อุบัติเหตุที่เกือบจะคร่าชีวิตตำรวจทางหลวง 2 นาย ขณะที่กำลังตั้งด่านตรวจรถบรรทุกที่ทำผิดกฏจราจรอยู่บนถนนสายมอเตอร์เวย์ฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานคร โดยเกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น ของวันที่ 26 มค. เมื่อศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างประทีปธรรมสถานศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถโชเฟอร์รถหัวลาก 18 ล้อ พุ่งเข้าชนรถตำรวจทางหลวงขณะจอดจับรถบรรทุก 10 ล้อ แซงขวาอยู่ พังยับเยิน บริเวณถนนสายมอเตอร์เวย์ฝั่งขาเข้ากรุงเทพกรุงมหานคร กม.ที่ 88 อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บรวม 2 นาย โดยหนึ่งในนั้นมีอาการสาหัสมาก ไม่ได้สติ จึงประสาน พ.ต.ท.รัตพล วรรณะ พนักงานสืบสวน สทล.1 กก.8 (สทล.เขาเขียว) หน่วยพยาบาลกู้ชีพ รพ.สมิติเวชศรีราชา เข้าร่วมตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถพ่วง 18 ล้อส่วนหัว หมายเลขทะเบียน 64-3876 กทม. มีนายวิทวัส เวียงชัย อายุ 29 ปี เป็นคนขับ ชนติดอยู่กับรถยนต์เก๋งของตำรวจทางหลวง หมายเลขทะเบียน 8 กผ 8108 กทม. เลขข้างรถ 8132 โดยชนจนรถตำรวจกระเด็นไปชนท้ายรถ10ล้ออีกคันที่จอดอยู่ใกล้ๆแล้วไปอัดติดอยู่กับรั้วเหล็กกั้นขอบทาง สภาพรถตำรวจทางหลวงแหลกเละไปทั้งคัน แทบจะเป็นเศษเหล็ก พบผู้ได้รับบาดเจ็บนอนอยู่ข้างตัวรถเก๋ง 1นาย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอีก 1 นาย ยังติดอยู่ในซากรถเก๋ง อาการสาหัส
เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงให้การช่วยเหลือนำตัวออกมาจากซากรถอย่างเร่งด่วน ทราบชื่อคือ ด.ต.ธนพล หอมขจร พนักงานวิทยุ สทล.1 กก.8 ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่นอกตัวรถเก๋งก่อนที่จะถูกชน ชื่อด.ต.ไกรยุทธิ์ พันธุ์กำเนิดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ปฐมพยาบาลช่วยเหลือก่อนในเบื้องต้นแล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน และที่ด้านหน้าซากรถเก๋ง พบรถบรรทุก 10 ล้ออีกคัน หมายเลขทะเบียน 97-4825 กทม. จอดอยู่ด้านหน้ารถเก๋ง ที่ถูกชนท้ายต่อจากรถเก๋ง ได้รับความเสียหายบริเวณท้ายรถ โดยมี นายรัตนะ ผันผล อายุ 28 ปี เป็นผู้ขับขี่รถ10 ล้อ ยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้านนาย รัตนะ คนขับรถบรรทุก 10 ล้อ ให้การกับเจ้าหน้าที่อย่างตกใจไม่หายว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองขับรถบรรทุกแซงรถคันอื่นในเลนขวา ซึ่งอยู่ในช่องการจราจรที่ 2 จึงทำให้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงทั้ง 2 นายเรียกให้เข้าจอดข้างทาง ตนจึงจอดข้างทางแล้วเดินไปหาตำรวจที่จอดอยู่ด้านหลัง โดยดาบตำรวจไกรยุทธเป็นคนที่ลงจากรถเก๋งสายตรวจเพื่อขอดูใบขับขี่ของตน โดยที่ ด.ต.ธนพล หอมขจร ยังอยู่ในรถเก๋ง
ขณะที่ตนเองกำลังเดินจะถึงหน้ารถตำรวจก็เห็นรถหัวลาก 18 ล้อ คันก่อเหตุ ขับพุ่งเอียงเข้ามาเข้าหาท้ายรถตำรวจที่จอดอยู่ริมถนนมอเตอร์เวย์อย่างเร็ว ตนเองและด.ต.ไกรยุทธิ์ พันธุ์กำเนิด เห็นพอดี จึงรีบกระโดดหลบข้ามที่กั้นทางจนล้มกลิ้งไปในกอหญ้าข้างถนนพร้อมกับด.ต.ไกรยุทธิ์ พันธุ์กำเนิด ชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด รอดตายอย่างหวุดหวิด ก่อนที่รถหัวลาก18ล้อพุ่งเข้าชนกระแทกจากด้านท้ายรถตำรวจอย่างแรง หลังจากนั้นจึงลุกมาดู ก็พบรถยนต์ตำรวจถูกอัดก๊อบปี้เละแทบจะเป็นเศษเหล็ก จึงรีบแจ้งเจ้าหน้ากู้ภัยสว่างประทีปธรรมสถานศรีราชาให้รีบมาช่วยเหลือดังกล่าว
จากคำให้การ นายวิทวัส เวียงชัย คนขับรถหัวลาก 18 ล้อพ่วงคันก่อเกตุ กล่าวว่า วันนี้ช่วงสายตนมีงานที่ต้องขับรถพ่วง 18 ล้อคันนี้ไปส่งสินค้าที่จังหวัดระยอง พอเสร็จงาน ก็กำลังจะขับกลับบริษัทที่สระบุรี ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุตนเองรู้สึกง่วงมาก น่าจะมาจากตนพักผ่อนไม่พอ ตอนนั้นตั้งใจอยากจะหาที่จอดรถข้างทางริมถนนสายมอเตอร์เวย์เพื่อนอนพัก แต่ริมถนนสายนี้ไม่มีไหล่ทางให้จอดและมีกฏจราจรห้ามจอดรถพ่วง บริเวณริมถนน ตนจึงต้องพยายามฝืนขับรถไปจอดในจุดพักรถที่ให้จอดได้ โดยต้องขับต่อไปให้ถึงบริเวณด่านชั่งน้ำหนักในเขตเมืองชลบุรี ถึงจะสามารถจอดรถเพื่อนอนพักได้ พอมาถึงที่เกิดเหตุอยู่ดีๆตนเกิดอาการสติขาด วูบหลับไปแบบกระทันหัน ทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้ หัวรถจึงเบี่ยงเข้าไปชนอัดท้ายรถตำรวจทางหลวงที่จอดอยู่ริมถนนจนกระเด็นไปอัดก๊อปปี้กับรถบรรทุก 10 ล้ออีกคันที่จอดอยู่ด้านหน้าดังกล่าว ตนรับรองว่าตนไม่ได้เมาสุราและไม่ได้เสพยาเสพติดแต่อย่างใด ซึ่งถือว่าโชคดีมากที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ตนยอมรับผิดและต้องขอโทษผู้บาดเจ็บทุกคนด้วย เหตุการณ์นี้จะเป็นบทเรียนให้ตนจำไปตลอดชีวิต จะไม่ฝืนขับรถในขณะที่เกิดอาการง่วงอีก สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์
เครดิตเรื่องและภาพ https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_5822553