เมื่อเวลาประมาณ 14:00 น ที่ห้องประชุมศปก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้มีการแถลงข่าวการจับกุมปาร์ตี้มั่วสุมยาเสพติด เมื่อเวลาประมาณ 5:00 น ของวันที่ 30 มกราคม พบผู้กระทำผิดจำนวน 22 คน ภายในโรงแรมแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ในห้องพักเลขที่ 314 พร้อมของกลาง ยาอี 3 เม็ด ยาเค 4 ถุง มีน้ำหนักรวม 2.3 กรัม โทรศัพท์มือถือจำนวน 22 เครื่อง
พลตำรวจตรีพิษณุ อุณหเสรี ผบก. ภ.จังหวัดอุดรธานี และเปิดเผยว่า เมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 30 มกราคม ไม่มีผู้แจ้งว่า บริเวณห้องพัก 314 ของโรงแรมแห่งหนึ่ง มีการมั่วสุมของชายหญิง และส่งเสียงดัง จึงได้นำกำลังสายตรวจ 191 เข้าตรวจค้น และผมว่ามีชายหญิงรวมกันจำนวน 22 คน เป็นผู้หญิง 12 คน เป็นผู้ชาย 10 คน กำลังนั่งล้อมวงดื่มเหล้า ภายหลังเข้าตรวจสอบพบยาเค 4 ถุง และยาอีอีก 3 เม็ด ตกอยู่บริเวณพื้นห้อง ภายในห้องยังพบไมโครเวฟ เพื่อเอาไว้อบยาเค
พันตำรวจโทพัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป.สภเมืองอุดรธานี ได้ยึดของกลางทั้งหมดและนำตัว กลุ่มมรสุมทั้งหมด 22 คน มาที่โรงพัก ทำการตรวจปัสสาวะเบื้องต้น พบว่ามีสีม่วงทั้งหมด 22 คน จากการตรวจสอบเพิ่มเติมจากนาย วิชญพลอายุ 32 ปี รับว่าเป็นผู้จัดงานปาร์ตี้ หน่วยแนะนำยาอีและยาเคมาจากกรุงเทพฯ หน่วยได้ชักชวนกลุ่มเพื่อนทั้งชายหญิง ทางโซเชียลมีเดีย เพื่อมาทำการดื่มเหล้าและเสพยา
ผู้ต้องหากลุ่มปาร์ตี้เสพยาดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นชาวจังหวัดอุดรธานี โดยมีชาวหนองบัวลำภู 1 คน ชาวชลบุรี 2 คน สปป.ลาว 1 คน เมื่อตั้งวงดื่มเหล้า ได้สักพัก จึงส่งเสียงดัง รบกวนข้างห้อง จึงได้มีคนแจ้งตำรวจเพื่อเข้าจับกุม เลยหลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ยังไม่มีการจัดปาร์ตี้มั่วสุมเสพยา ในจังหวัดอุดรธานี เคสนี้เป็นเคสแรก
สอบสวนโรงแรมเพิ่มเติม
นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ยังเปิดเผยว่า จะมีการสอบสวนโรงแรมดังกล่าว หากปล่อยว่ามีการมั่วสุม หรือการดูแลไม่เป็นไปตามระเบียบ จะสั่งให้ฝ่ายปกครอง ที่เป็นเจ้าของระเบียบและการตรวจตรา รวมไปถึงการอนุญาตสถานบริการประเภทโรงแรม เพื่อรวบรวมข้อมูลพิจารณาในการอนุญาต ในเรื่องต่างๆครั้งต่อไป
ตรวจหาเชื้อโควิด
ในส่วนของผู้ต้องหาจำนวน 22 คน ได้มีการสั่งให้ทีมสาธารณสุขของจังหวัดอุดรธานี ทำการตรวจหาเชื้อโควิด แล้วจะทราบผลในวันถัดไป และยังมีการสอบสวน ว่าทั้ง 22 คน เคยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงมาก่อนหรือไม่ เพราะบางคนมาจากพื้นที่การแพร่ระบาด คือจังหวัดชลบุรี ย้ำว่าจะตรวจหาในทุกคน เพราะว่าถือเป็นความเสี่ยงมาก ทั้งนี้ถ้าศาลมีการให้ประกันตัว จะต้องมีการกักตัวผู้ต้องหาทั้ง 22 คน