ยื่นขอศาลคุ้มครอง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เดินทางมาพบ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ที่จังหวัดมุกดาหารได้สำเสร็จ หลังจากรอบที่แล้วไม่สามารถเข้าจังหวัดได้ ซึ่งนอกจาก นายษิทรา จะตั้งใจขึ้นภูเหล็กไฟ สถานที่เสียชีวิตของ น้องชมพู่ ด้วยตัวเองแล้ว ยังได้พา ลุงพล ไป ยื่นขอศาลคุ้มครอง หากถูกออกหมายจับ
ขอความคุ้มครองในฐานะผู้ต้องสงสัย ซึ่ง ลุงพล พร้อม นายษิทรา ได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดมุกดาหาร เพื่อการยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนหาความจริงก่อน หาก ลุงพล ถูกออกหมายจับ ซึ่งในเอกสารยื่นคำร้องระบุว่า ลุงพล ขอความคุ้มครองในฐานะผู้ต้องสงสัย เพราะที่ผ่านมาทางตำรวจให้สัมภาษณ์และอีกหลายคนพุ่งเป้าว่า ลุงพล คือ ผู้ต้องสงสัย
ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล พร้อมกับกล่าวต่อว่า การมายื่นคำร้องต่อศาลในครั้งนี้นั้น ศาลจะรับอยู่แล้วแต่จะให้ไต่สวนหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ซึ่งปกติแล้วหากตำรวจขอออกหมายจับเขาจะมีคำให้การและหลักฐานบางส่วนนำมาให้ศายฝ่ายเดียว ในทางทนายมองว่าถ้าหากเป็นแบบนี้เราไม่มีโอกาสไปยื่นพยานหลักฐานต่อศาล จึงเป็นเหตุให้มายื่นขอศาลในวันนี้
ไม่เกี่ยวกับการร้อนตัว ต่อข้อซักถามที่ว่าการยืนคำร้องต่อศาลนั้นถือเป็นการร้อนตัวหรือไม่ ทนายตั้ม กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับการร้อนตัว แต่เป็นการเตรียมการและเป็นสิทธิ์ที่เราจะทำได้ และนี่ก็ไม่ใช่คดีแรกที่ตนเคยทำ เพียงแต่ไม่ได้เป็นข่าวเท่านั้นเอง
การมาครั้งนี้ถือเป็นการช่วยลุงพลไปก่อน เมื่อถามว่าตกลงรับคำคดีนี้แล้วหรือไม่ ทนายตั้ม เผยว่า ตอนนี้ยังไม่ได้รับคำคดีเพราะตอนนี้ ลุงพล ยังไม่มีคดีอะไร สำหรับการทำคดีหรือไม่เงื่อนไขยังเหมือนเดิม คือ ต้องคุยกับ ลุงพล ก่อน ซึ่งอันนี้ผ่าน รวมถึงต้องไปดูที่เกิดเหตุ และต้องได้คุยกับพยาน การมาครั้งนี้ถือเป็นการช่วยลุงพลไปก่อน ส่วนเรื่องที่บอกว่ามีคนมาปั่นป่วนให้ตนทำคดียากนั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะตนทำคดีดังแต่ก็ไม่สนใจเพราะตนทำหน้าที่ของตน
เชื่อน้องชมพู่ ไม่สามารถเดินมาถึงจุดนี้ได้แน่นอน ซึ่งวันถัดมา ทนายตั้ม และ ลุงพล พร้อมทีมงานสื่มวลชน ร่วมเดินทางขึ้นภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ไปยังจุดที่พบศพ น้องชมพู่ โดยใช้เวลาในการเดินทางขึ้นไปประมาณ 1ชั่วโมง 30 นาที พอได้เดินทางขึ้นไปด้วยตัวเองแล้ว ทนายตั้ม เชื่อน้องชมพู่ ไม่สามารถเดินมาถึงจุดนี้ได้แน่นอน แม้ว่าจะมีคนพามา ก็ต้องมีมากกว่า 1 คน เพราะทั้งสภาพโขดหิน ทางลาดชัย พร้อมยืนยันว่า น้องชมพู่ มาเองไม่ได้แน่นอน และการเสียชีวิตนั้นต้องมีเงื่อนงำ
ยอมรับว่าคิดถึงหลานและสะเทือนใจ ทางด้าน ลุงพล เผยความรู้สึกว่า ต้องขอบคุณ ทนายตั้ม ที่มาเดินพิสูจน์เส้นทางในครั้งนี้ ส่วนรายละเอียดคงต้องให้ ทนายตั้ม วิเคราะห์เอง และตน ยอมรับว่าคิดถึงหลานและสะเทือนใจ เพราะในบรรดาญาติตนเป็นคนแรกที่เห็นน้อว แต่ความจริงมีผู้ชายอีกคนที่มาเจอเป็นคนแรก
จากการสังเกตของผู้สื่อข่าวว่า ลุงพล พยายามเลี่ยงที่จะไม่เข้าใกล้จุดที่พบเสื้อ รองเท้าของ น้องชมพู่ พอถูกถามว่ารู้สึกสะเทือนใจใช่หรือไม่ ลุงพล ได้แต่พยักหน้า พร้อมกับบอกว่าพูดไม่ออก ไม่พูดดีกว่า หลังจากนั้น ลุงพล ก็เช็ดน้ำตา
เครดิตภาพ : เนชั่นทีวี, ข่าวสด, กรุงเทพธุรกิจ
////////////////////////////////////////////////