ต้องแจ้งข้อเท็จจริงว่าเขาทำผิดอย่างไร พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เผยถึงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ ที่มีกระแสข่าวว่าจะออกหมายจับ 15 ก.พ. ตอนนี้ยังไม่กำหนดวันที่แน่นอน ย้ำการจับกุมใครสักคนหลักการ คือ ต้องแจ้งข้อเท็จจริงว่าเขาทำผิดอย่างไร
อะไรที่เล่าได้ก็จะเล่าให้ฟัง พร้อมกับกล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่กำหนดการว่าจะทำอะไรวันไหน แต่ไม่ได้แปลว่าไม่มี หากถึงวันที่ทุกคนรอคอยการชี้แจงเรื่องของตำรวจก็จะทำเท่าที่ทำได้ อะไรที่เล่าได้ก็จะเล่าให้ฟัง แต่ถ้าทำแล้วเกิดความเสียหายก็อาจจะเล่าไม่ได้ เพราะการจับกุมใครสักคนหลักการก็คือ ต้องแจ้งข้อเท็จจริงว่าเขาทำผิดอย่างไร รวมถึงสิ่งที่แจ้งต่อตัวผู้ต้องหาอาจจะพิจารณาออกสื่อได้ว่าเราจะกล่าวหาเขาอย่างไร แต่ในส่วนของเหตุผลที่มาสนับสนุนการกระทำของผู้ก่อเหตุนั้น อาจจะบอกได้ไม่หมด
เข้าข่ายการฆ่าโดยเจตนา ต่อข้อซักถามที่ว่าคดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ นั้นถือว่าเข้าข่ายการฆ่าโดยเจตนา หรือไม่ เรื่องนี้ ผบ.ตร. เผยว่า การระบุการแจ้งข้อหาจะต้องมีการลงมติกันในรูปของคณะพนักงานสอบสวน ซึ่งตอนนี้มีหลายประเด็นที่เห็นว่าจะต้องมีการเพิ่มเติม และมาพูดคุยกันอีกครั้ง
ไม่ขอยืนยันคำตอบ พร้อมกับกล่าวต่อว่า ถ้าถามว่าหากจะมีใครสักคนพาเด็กทั้งๆ ที่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ แล้วนำขึ้นไปยังจุดนั้น และสามารถเล็งเห็นแล้วว่าเสียชีวิตแน่นอน ท่าคิดว่าจะโดนข้อหาอะไร ซึ่งแต่ละคนจะมีความคิดเห็นอย่างไรก็ได้ แต่ทั้งหมดก็ต้องแล้วแต่ทางคณะพนักงานสอบสวนว่าจะพิจารณาแจ้งข้อหาอะไร แต่โดยส่วนตัว ไม่ขอยืนยันคำตอบ เพราะยังหารือกันอยู่ตอนนี้ขอให้คำตอบแบบทางการก่อน เพราะเกรงจะเสียหายต่อรูปคดี
ให้น้ำหนักการต่อสู้คดีกันในชั้นศาลมากกว่า ต่อข้อซักถามที่ว่า นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล พร้อมด้วยทนายความไปร้องต่อศาลให้คุ้มครองนั้น ถือเป็นการร้อนตัวหรือไม่ ผบ.ตร. เผยว่า ปัจจุบันการสู้คดีจะสู้กัน 2 ทาง คือ สู้กันในศาล กับสู้กันในโลกโซเชียล แต่ในทางตำรวจแล้วนั้นจะให้น้ำหนักการต่อสู้คดีกันในชั้นศาลมากกว่า เรามั่นใจจึงต้องทำ
หลักฐานทุกชิ้นสำคัญหมด พร้อมกับกล่าวต่อว่า ในส่วนที่มีนักกฎหมายออกรายการทีวี และพูดว่าไม่สนใจไมโทครอนเดรีย ดีเอ็นเอ โดยให้เหตุผลว่าอาจจะเป็นของ น้องชมพู่ ก็ได้นั้น คงต้องฟังรายละเอียดจากเขา(นักกฎหมาย) แต่อธิบายได้ว่า ไมโทครอนเดรียเป็นดีเอ็นเอที่สกัดโดยวิธีที่แตกต่างจากนิวเครียส โดยจะระบุว่าเป็นของใครคงบอกได้ไม่แน่ชัด แต่บอกได้เพียงว่าเป็นของญาติที่เป็นผู้หญิง ซึ่งโดยหลักฐานทุกชิ้นนั้นสำคัญหมด เพราะต้องนำหลายอย่างมาประกอบกัน
เหลือที่ต้องสอบเพิ่มเติมอีก ต่อข้อซักถามที่ว่าศพของ น้องชมพู่ จะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอนาจารศพหรือไม่ ประเด็นนี้ ผบ.ตร. กล่าวกล่าวแค่เพียงสั้นๆ ว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที พร้อมกับย้ำว่ายังเหลือที่ต้องสอบเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย แต่ประเด็นที่จะสอบเพิ่มเติมนั้นเป็นประเด็นอะไรยังตอบไม่ได้ โดยจะมีการสรุปกันอีกที
เครดิตภาพ : ไทยรัฐออนไลน์
////////////////////////////////////