พบผู้ติดเชื้อไวรัส โคโรนาที่กลายพันธุ์ แล้วในขณะนี้ที่ประเทศฝรั่งเศส และโดยเชื้อที่กลายพันธุ์นี้สามารถระบาดได้ง่ายกว่าปกติเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า ซึ่งเคยพบมาก่อนหน้านี้แล้วรายแรกพบในประเทศอังกฤษ
ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์คนดังกล่าว ไม่มีการแสดงอาการใดๆ และขณะนี้ได้มีการกักตัวอยู่ที่บ้าน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นชาวฝรั่งเศสจากเมืองตูร์ส ได้เดินทางกลับจากประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นรายงาน กระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศส ได้ระบุไว้
ย้อนไปเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา ประเทศฝรั่งเศสได้ปิดพรมแดนการเดินทาง ระหว่างฝรั่งเศสกับอังกฤษ และอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่ตรวจโรคแล้ว ไม่พบการติดเชื้อโคโรนาเท่านั้นถึงจะสามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศฝรั่งเศสได้ ซึ่งการค้นพบผู้ติดเชื้อโคโรนากลายพันธุ์นั้น เป็นสาเหตุให้ประเทศอังกฤษ ต้องถูกระงับการเดินทางจากหลาย 10 ประเทศ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อกับคนขับรถบรรทุกหลายพันคน เพื่อรอการเดินทางกลับประเทศ โดยการข้ามช่องแคบอังกฤษสำหรับเทศกาลคริสต์มาสที่ผ่านมา
หลังจากที่ผู้ติดเชื้อรายนี้ได้เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมาโดยไม่มีอาการใดใดขณะที่เข้ารับการตรวจที่แต่ผลตรวจและการยืนยันทางการแพทย์สรุปว่าคนไข้รายนี้มีติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19)
ในขณะเดียวกันกับประเทศอื่นๆก็ได้มีการรายงานเช่นกันว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ที่พบในประเทศอังกฤษเช่นกันค่ะซึ่งจะประเทศญี่ปุ่นได้มีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์นี้เพิ่มเป็นจำนวนห้ารายและผู้ป่วยภายในห้ารายนี้ได้เดินทางกลับจากประเทศอังกฤษทั้งหมดเป็นการรายงานการติดเชื้อและเช่นเดียวกันกับประเทศเนเธอร์แลนด์ออสเตรเลียเดนมาร์กก็ที่พบการติดเชื้อก่อนหน้านี้เช่นกัน
ยอดผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา มีมากกว่า 1.7 ล้านรายและ ส่วนในวันคริสต์มาสที่ผ่านมานี้ประเทศอังกฤษมียอดจำนวนผู้เสียชีวิตแต่เป็น 70,000 รายต่อทั้งทั้งที่เป็นการเฉลิมฉลองกันแบบปกติ
ขณะนี้มีคนในประเทศอังกฤษเพิ่มอีกกว่า 6 ล้านคน ของภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือใต้ทางอังกฤษ ที่อยู่ในพื้นที่ของการควบคุมการเกิดการระบาด ในขั้นที่สี่ นับเป็นระดับความเข้มงวดสูงสุด ของการควบคุมโรคระบาด ของเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ซึ่งมีผลบังคับใช้กับประชากรในประเทศอังกฤษมากกว่า 40% เป็นมาตรการควบคุมขั้นสูงสุดของประเทศอังกฤษ
“ไม่ได้เปล่าเปลี่ยวอยู่เพียงคนเดียว” เป็นพระราชดำรัส ของ สมเด็จพระราชินีนาถ อลิซาเบธ แห่งสหราชอาณาจักร ทรงพระราชทานพระราชดำรัสนี้ ถึงราษฎรที่ต้องการฉลองเทศกาลคริสต์มาส โดยไม่มีเพื่อนหรือครอบครัวที่กำลังอยู่ด้วยกัน และทรงตรัสว่าการแพร่ระบาดนี้ “ทำให้เราใกล้กันมากขึ้น”
พระองค์ทรงบอกว่าผู้คนที่เป็นอาสาสมัครช่วยเหลือคนอื่นในชุมชน คือแรงบันดาลใจให้ครอบครัวของพระองค์เอง “น่าทึ่งที่ปีทั้งปี ทำให้คนที่จำเป็นต้องอยู่ห่างกัน กลับทำให้เราใกล้กันมากขึ้นในหลายทาง” สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธทรงรัส ผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ในวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา
พระองค์ทรงแสดงความเสียใจที่คนศาสนาต่างๆ ไม่สามารถรวมตัวกันในเทศกาลต่างๆ ได้ และทรงระบุว่า “เราต้องให้ชีวิตดำเนินต่อไป” ในสหราชอาณาจักร และทั่วโลกผู้คนลุกขึ้นมาต่อสู้กับความท้าทายความยากลำบากในปีนี้อย่างดีเยี่ยม ข้าพเจ้าภูมิใจ และซาบซึ้งในน้ำใจที่ไม่ปริปากแล้วยอมแพ้เหล่านั้น” พระองค์ทรงตัดทิ้งท้าย
ในวันคริสต์มาสที่ผ่านมาสมเด็จพระสันตะปาปาทรงอำนวยพระพร “Urbi Telegraph Orbi” ให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก ผ่านช่องทางออนไลน์ ถึงเมืองโรมและทั้งโลก พระองค์ทรงบอกว่า ผู้นำรัฐบาลต้องให้ความร่วมมือกัน ถึงเรื่องวัคซีนและทรงตรัสท่ามกลางความกังวลว่า ชาติที่ร่ำรวยจะกว้านซื้อวัคซีนมากเกินไป จนอาจไม่เหลือสำหรับประเทศที่ยากจนกว่า “ต่อหน้าความท้าทายที่ไม่รู้จักพรมแดน เราไม่สามารถสร้างกำแพงได้ เราทุกคนอยู่ในเรือลำเดียวกัน”
ซึ่งในขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อโคโรนาทั้ งหมดเป็นจำนวน 80 ล้านราย มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 1.75ล้านราย ซึ่งประเทศอิตาลีมียอดผู้เสียชีวิตสูงสุดในยุโรป มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว จำนวนกว่า7.1 หมื่น ราย
Tax (ข่าวรายวัน 27/12/63)