รับทราบข้อกล่าวหา น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำกลุ่มราษฎร พร้อมทนายความเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา กรณีการกระทำความผิดขณะร่วมชุมนุม “นับ 1 ถึงล้านคืนอำนาจให้ประชาชน” กับกลุ่มมวลชนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ส่งหมายเรียกให้ล่าช้า โดย น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนส่งหมายเรียกให้ล่าช้า โดยนัดหมายให้มาในวันที่ 4 มีนาคม แต่ปรากฏหมายเรียกถึงบ้านพักวันที่ 4 มีนาคม พอดี จึงต้องขอเลื่อนเพื่อมาในวันนี้ ส่วนความผิดที่ได้รับเบื้องต้นทราบว่า คือ การฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน, พรบ.ความสะอาด, พรบ.ควบคุมโรค
มูลค่าสูงถึง 5.9 ล้าน รวมถึงความเสียหายของการเคลื่อนย้ายกระถางต้นไม้ ซึ่งความเสียหายคราวนี้มีมูลค่าสูงถึง 5.9 ล้านบาท เท่าที่ทราบมีเพื่อนๆ อีก 5-6 คน ถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน และแต่ละคนก็เข้าพบพนักงานสอบสวนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ถูกแจ้งข้อหา พร้อมกับกล่าวต่ออีกว่า และวนวันที่ 8 มีนาคม ตนต้องไปขึ้นศาลกรณีนัดฟังคำสั่งฟ้อง ในวาระการชุมนุม 19 กันยายน 2563 ทวงอำนาจคืนราษฎร ที่ท้องสนามหลวง ซึ่งตนและพวกถูกแจ้งข้อหาตาม ม.112 ม.116 และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เกรงว่าศาลจะไม่ให้ประกันตัว แต่ก็ไม่ได้กังวลใดๆ นอกจากกลัวจะไม่ได้สอบ ไม่ได้เรียนต่อ แต่ทำใจไว้แล้ว เพราะมันคือเส้นทางการต่อสู้
เดินทะลุฟ้า ส่วนทางด้าน นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ที่ทำกิจกรรม “เดินทะลุฟ้า” เป็นวันสุดท้าย หลังเดินมาแล้ว 17 วัน กับระยะทาง 247.5 กิโลเมตร โดยเริ่มเดินจากแยกเกษตร เคลื่อนขบวนมาถึงจุดสิ้นสุดที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง พร้อมตั้งเวทีและผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัย และประกาศข้อเรียกร้อง 4 ข้อ คือ 1.แก้ไขรัฐธรรมนูญ, 2.ปล่อยเพื่อนเรา, 3.ยกเลิกมาตรา 112 และ 4.นายกรัฐมนตรีลาออก
ขึ้นเวทีอ่านแถลงการณ์ นอกจากนี้ในช่วงค่ำ นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ แกนนำกลุ่ม People GO network พร้อมด้วย นายจตุภัทร์ หรือ ไผ่ ดาวดิน ขึ้นเวทีอ่านแถลงการณ์ โดยให้ผู้ร่วมกิจกรรมหันหลังให้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และ ชู 3 นิ้ว และอ่านแถลงการณ์พร้อมกันโดยเนื้อหาสำคัญมีดังนี้
ยืนยันสิทธิเสรีภาพ การเดินทะลุฟ้าครั้งนี้ เรามุ่งมาดแน่วแน่เพื่อยืนยันสิทธิเสรีภาพ การออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ต้องไม่เป็นเหตุให้ถูกปิดปากด้วยมาตรา 112 เรียกร้องให้ปล่อยเพื่อนเรา ที่ถูกดำเนินคดีจากการใช้สิทธิและเสรีภาพพื้นฐาน ทุกคนต้องได้รับสิทธิประกันตัว เพราะพวกเขายังไม่ได้ถูกตัดสินว่ากระทำผิดแต่อย่างใด
ปราบปรามคนเห็นต่างทางการเมือง ขบวนเดินทะลุฟ้าเห็นความเป็นไปของบ้านเมือง ภายใต้การสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร ที่ไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน ไม่จริงใจเยียวยาประชาชนที่เดือดร้อนทางเศรษฐกิจ รวมถึงการใช้กำลังทำร้ายผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง และใช้กระบวนการยุติธรรมบังหน้า ปราบปรามคนเห็นต่างทางการเมือง ไร้สัจจะ ไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพี่น้องบางกลอย เป็นต้น
ขบวนเดินทะลุฟ้า V.2 พร้อมกับขอประกาศปิดภารกิจของ “ขบวนเดินทะลุฬา V.1” ที่สร้างการเคลื่อนไหวและรณรงค์ ด้วยการเดินมาที่นี่เป็นเวลา 17 วัน นับตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ และขอประกาศก้าวเข้าสู่ภารกิจใหม่เป็น “ขบวนเดินทะลุฟ้า V.2” ยกระดับข้อเรียกร้อง จาก 3 ข้อเดิม คือ ประยุทธ์ออกไป, ประยุทธ์ต้องออกไป และประยุทธ์ต้องออกไปโดยทันที โดยหลังจากการอ่านแถลงการณ์จบทั้งหมดก็ยุติการชุมนุม โดยไม่เกิดความรุนแรงใดๆ ทั้งสิ้น
เครดิตภาพ : มติชนออนไลน์, ไทยโพสต์,
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////