ลุงพล หรือ นายไชย์พล วิภา กรณีที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ ที่ถูกพบเป็นศพในสภาพเปลือยกายอยู่บนภูเหล็กไฟ จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ได้มีการเตรียมว่าจ้างทนายคนดัง อย่าง ทนายษิทรา เบื้ยบังเกิด ให้มาดูแลรับผิดชอบเรื่องคดีดังกล่าว โดยความคืบหน้านั้น ทนายตั้ม หรือ ทนายษิทรา จะเดินทางไปที่บ้านกกกอก ในสัปดาห์หน้านี้ เพื่อติดตามและหาข้อมูลเกี่ยวกับคดีดังกล่าว
มั่นใจเป็นทนายมีชื่อ ซึ่งงานนี้ ลุงพล มั่นใจที่จะให้ทนายตั้มรับหน้าที่ดูแลคดีดังกล่าวนี้ เพราะก่อนหน้านี้ ทนายตั้งได้เข้ามาดูแลคดีหมิ่นประมาทระหว่าง ลุงพล และ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม มาแล้ว โดยเจ้าตัวมั่นใจในฝีมือทนายตั้ม เพราะที่ผ่านมาเห็นทนายตั้มรับทำคดีสำคัญๆ มาแล้วมากมาย รวมถึงการมีทนายที่ไว้ใจได้นั้น ก็สามารถทำให้คุ้มครองสิทธิ์ตัวเองได้ ซึ่งหลังจากนี้ ทนายตั้มจะลงพื้นที่ไปยังบ้านกกกอก จ.มุกดาหาร เพื่อหาข้อมูลต่างๆ รวมถึงพยานแวดล้อมในช่วงเวลาของ ลุงพล และช่วงเวลาที่น้องชมพู่ได้หายตัวไปอีกด้วย

กังวลเรื่องความปลอดภัย ซึ่งเรื่องนี้ นายวัชรินทร์ กงแก่นท้าว หรือ พ่อแบม หนึ่งในพยานที่เข้าเครื่องจับเท็จ ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน1 หลังจากที่ได้เล่ารายละเอียดให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วนั้น ยอมรับว่าเกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุจะเป็นใคร และยังกิดเหตุการณ์ลักษณะข่มขู่ขึ้นกับตน พร้อมกับยืนยันว่าตนจะไม่ย้ายบ้านไปไหนตามที่เป็นกระแสข่าวอย่างแน่นอน นอกจากนี้ พ่อแบม ยังเล่าต่ออีกว่า ในวันเกิดเหตุนั้นตนเห็น ลุงพล หรือ นายไชย์พล วิภา ลุงของ น้องชมพู่ กรีดยางอยู่ในสวนที่อยู่ตรงข้ามบ้านของลุงพล และวันนั้นตนได้มีการพูดคุยกับ ลุงพล เล็กน้อย รวมถึงยังเห็นบุคคลปริศนาอยู่ในกอไผ่ท้ายสวนยางหลังบ้านก่อนที่จะมาเจอเจอ ลุงพล อีกด้วย
เคลียร์ละเมิดสัญญา ผู้บริหารผลิตภัณฑ์ชาสมุนไพรมาดี้พีช รัชนี โลกายุทธ์ เตรียมเคลียร์ ลุงพล เรื่องกรณีที่รับเป็นพรีเซ็นเตอร์กาแฟยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งมีคุณสมบัติใกล้เคียงกันถือเป็นการละเมิดสัญญาในการเป็นพรีเซ็นเตอร์ชาสมุนไพรของตนอีกด้วย โดยก่อนหน้านี้ ลุงพล ได้มีข่าวเรื่องของสัญญาทาสกับเจ้าของผลิตภัณฑ์ชาสมุนไพรรายนี้มาแล้ว และถูกกล่าวหาว่าจ่ายเงินไม่ครบ ซึ่งเรื่องนี้ผู้บริหารสาวยันเรื่องเงินได้จ่ายครบตามจริงไปเรีนบร้อยแล้ว และยังกล่าวอีกว่าการที่ท ลุงพล รับเป็นพรีเซ็นเตอร์ของกาแฟยี่ห้อหนึ่งนั้นถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความใกล้เคียงกัน โดยทางตนมีสิทธิ์ที่จะจัดการตามกฎหมายได้เลย

ถอดจากพรีเซ็นเตอร์ ด้าน ดร.สิรินภัสธา สิรินภัสโภคิน เจ้าของผลิตภัณฑ์กาแฟ เผยหลังจากทราบคลิปที่ ลุงพล ทำร้ายผู้สื่อข่าว ยอมรับว่าพฤติกรรมดังกล่าวนั้นไม่เหมาะสม และยังทำให้ตนเสียความรู้สึกกับ ลุงพลอีกด้วย พร้อมยืนยันว่าจนตัดสินใจถอดลุงพลออกจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์กาแฟอย่างแน่นอน เพระทนพฤติกรรมไม่ไหว ภายหลังจากที่มีคลิปดังกล่าวออกไปแล้วนั้นได้มีลูกค้าติดต่อสอบถาม และของดการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์กาแฟของตน เพราะคิดว่าผลิตภัณฑ์นี้เป็นของลุงพล
ดร.สิรินภัสธา ยังกล่าวต่ออีกว่า ในเรื่องสัญญากับ ลุงพล นั้นไม่ได้มีสัญญาอะไรเป็นเพียงสัญญาใจ แต่มีหลักฐานการให้สัมภาษณ์ในช่องยูทูปหลายช่อง และ หลักฐานการโอนเงินค่าจ้าง 6 เดือน พร้อมตกลงว่าจะลงผ่านเพจของ ลุงพล และเพจของผลิตภัณฑ์ แต่ก็ไม่เป็นไปตามที่ตกลง รับนิสัย ลุงพล เปลี่ยนไปจากเดิมมาก เชื่อคงมีเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้ ลุงพล เปลี่ยนไปมาก
เครดิตภาพ : www.one31.net , www.new1live.net