นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ วัคซีนของบริษัท แอสตร้าเซเนก้า จำกัด ได้ขึ้นทะเบียนรับรองกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการรับรองครั้งนี้ เป็นการรับรองทั้งการนำเข้า และรับรองผลิตภัณฑ์วัคซีนโควิด 19 ที่ร่วมกับบริษัท สยามไบโอไซแอนซ์ จำกัด อีกด้วย
ส่งวัคซีนเร็วกว่าเดิม
โดยวัคซีนล็อตแรก จะมีการส่งมอบในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 โดยการมอบครั้งนี้ไม่ใช่ลดพิเศษ แต่มีการเจรจาขอให้ส่งมอบ ให้ทางประเทศไทยเร็วกว่ากำหนด ซึ่งในตอนแรกกำหนดไว้เดือนพฤษภาคม 2564 ที่ได้เจรจาในการซื้อไว้ 26 ล้านโดส
ซิโนแวคยังไม่ผ่านมาตรฐานของจีน
ในส่วนของการขึ้นทะเบียน วัคซีน นิทานรัฐบาล ได้ทำการสั่งซื้อไป 2 ล้านโดส จากบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค ประเทศจีน นายอนุทิน กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการ เพราะในส่วนของประเทศจีน ได้การรับรองในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น ยังไม่ได้รับการรับรอง ตามมาตรฐานสากล ซึ่งในช่วงที่มีการเจรจาก่อนหน้านี้ ทางบริษัทได้แจ้งว่า จะได้รับการขึ้นทะเบียน ผ่านมาตรฐานจากรัฐบาลจีน ราวกลางเดือนมกราคม 2564
โดยล่าสุดได้รับแจ้งว่า อาจต้องใช้กระบวนการพิจารณาในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 และในส่วนของทาง อย. ประเทศไทยเอง จะต้องรอการรับรองที่เป็นไปตามมาตรฐาน ของประเทศต้นทางก่อน โดยยึดหลักมาตรฐานสากลเป็นสำคัญ นายอนุทิน ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขั้นตอนการฉีดวัคซีน ไม่ได้จบเพียงในครั้งเดียว ต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ยืนยันไม่ปิดกั้นบริษัทอื่น
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงสาเหตุที่ทางรัฐบาล มีการเลือกใช้วัคซีนจากบริษัท แอสตร้าเซเนก้า ทำให้เกิดความสบายใจระดับหนึ่ง เพราะมีฐานการผลิตภายในประเทศ ส่วนเงินที่รัฐบาลให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ไปสนับสนุนบริษัท สยามไบโอไซน์ เป็นจำนวน 595 ล้านบาทนั้น เป็นไปตามมาตรฐาน ที่ขใช้แบบเดียวกัน ในการสนับสนุนผู้ผลิตรายอื่น แล้วทางรัฐบาลไม่ได้ปิดกั้น ในการพิจารณาที่จะเลือกใช้วัคซีน จากผู้ผลิตรายอื่นด้วยเช่นกัน
ยังมีอีกหลายล็อต
วันที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่าเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม ได้มีการลงนาม ในการขึ้นทะเบียน ของบริษัท แอสตร้าเซเนก้า ในส่วนของวัคซีนโควิด 19 ที่ผลิตในประเทศอิตาลี หลังจากทางบริษัทนั้นได้ส่งเอกสาร มาเป็นจำนวนมากเกือบ 10,000 บาท เพื่อขอขึ้นทะเบียนวัคซีน covid-19 ในไทย เพื่อใช้ในสภาวะฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2563
ทาง อย. มีการพิจารณาถึงเรื่อง คุณภาพ ประสิทธิภาพ, ความปลอดภัย เป็นสำคัญที่สุด โดยทางเลขาธิการ อย. ได้แจ้งว่าวัคซีนล็อตดังกล่าวจะมาถึงประเทศไทยในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นจำนวน 50,000 โดส และเมื่อวัคซีนได้เดินทางมาถึงประเทศไทย จะเป็นในส่วนของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ดำเนินการ โดยการสุ่ม ตรวจวัคซีน ว่ามีคุณภาพตามมาตรฐานหรือไม่
ทางบริษัท แอสต้าเเซเนก้า จะทำการทยอยส่งวัคซีนในหลอดที่เหลืออีก 150,000 โดส ให้ครบตามกำหนด ภายในเดือนมีนาคมถึงเมษายน และในส่วนของการผลิตวัคซีน covid 19 ที่แอสต้าเซเนก้า ร่วมกับสยามไบโอไซเอนซ์ จะมีการขึ้นทะเบียนสถานที่ผลิตในประเทศไทย กระบวนการนี้จะส่งผลให้ สามารถใช้วัคซีนในประเทศไทยได้ทันที ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2564