รัฐบาลได้ออกมาตราการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบ 2 ที่คนไทยทั้งประเทศได้รับผลระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะภาวะปากท้องของประชาชนทั่วประเทศ รวมทั้งระบบเศรษฐกิจที่กำลังจะกลัมมาดีขึ้น แต่ก็ต้องทรุดลงแบบกระทันหันอีกครั้ง โดยส่วนวิธีการขอรับการเยียวยาจากทสงรัฐบาลจะเป็นไปตามแนวทางที่กระทรวงการคลังกำหนด
วันที่ 12 มกราคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง และนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ร่วมกันแถลงข่าวมาตรการช่วยเหลือประชาชนจากการแพร่ระบาดโควิด หนึ่งในมาตราการที่แถลงร่วมกันคือ มาตรการเยียวยา 3,500 บาท ภายใต้ระยะเวลา 2 เดือน ภายใต้ชื่อโครงการใหม่ว่า “เราชนะ” หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบที่ 2 รัฐบาลออกมาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบรอบใหม่ โดยมีการเปลี่ยนชื่อโครงการและปรับปรุงรายละเอียดแพ็กเกจมาตราการให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และสอดคล้องกับงบประมาณมากขึ้น เช่นโครงการเราไม่ทิ้งกัน ในการระบาดรอบแรก แจกผู้ที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ 15 ล้านราย แต่ในครั้งนี้ใช้ชื่อว่า โครงการเราชนะ เป้าหมาย 30 ล้านราย
ผู้ที่จะไม่สามารถใช้สิทธิ์ในโครงการ “เราชนะ” คือ
- ผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคม จำนวน 11 ล้านคน,
- ข้าราชการและพนักงานของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 3 ล้านคน และกลุ่มผู้ที่มีรายได้สูง ซึ่งขณะนีนี้อยู่ระหว่างพิจารณาเกณฑ์คุณสมบัติ โดยอาจจะประเมินจากฐานเงินเดือนและบัญชีเงินฝากของผู้ที่มีรายได้สูง
- ส่วนผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการ 14 ล้านคน จะได้เข้าร่วมมาตรการอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเข้ามาลงทะเบียนขณะที่ผู้ที่เคยเข้าร่วมมาตรการของรัฐซึ่งมีแอปเป่าตั้งอยู่แล้ว เช่น โครงการคนละครึ่ง จำนวน 15.3 ล้านคน คลังจะดึงข้อมูลเหล่านั้นมาพิจารณา ถ้ามีรายได้เกินเงื่อนไขที่กำหนดจะถูกตัดสิทธิ ส่วนผู้ที่เข้าเกณฑ์จะได้รับเงินอัตโนมัติ ซึ่งต้องรอรับเงินผ่านแอปเป่าตัง โดยไม่ต้องลงทะเบียน ขณะที่ผู้ผ่านเกณฑ์แต่ไม่ได้มีฐานข้อมูลในแอปเป๋าตังจะได้รับเงินผ่านพร้อมเพย์
ทั้งโครงการ เราไม่ทิ้งกัน และ เราชนะ มีความเหมือนกันอยู่ในแง่ของข้อมูลจำเป็นที่ต้องใช้ลงทะเบียน เช่น หมายเลขบัตรประชาชน และข้อมูลประวัติการทำงานนอกจากนี้ทั้ง2โครงการเน้นช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยจ่ายผ่านแอพพลิเคชัน เป๋าตังค์ แต่ทั้ง2โครงการก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่บ้างในเรื่องของกลุ่มเป้าหมาย โดย“เราไม่ทิ้งกัน”รองรับกลุ่มอาชีพแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ผู้ที่ไม่อยู่ใน
ระบบประกันสังคม ส่วน “เราชนะ” รองรับกลุ่มอาชีพ แรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ และเกษตกร รวมถึงรองรับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการ 14 ล้านคน จะได้เข้าร่วมมาตรการอัตโนมัติโดยไม่ต้องเข้ามาลงทะเบียน
จะเห็นว่าโครงการ “เราชนะ” ครอบคลุมกลุมเป้าหมายได้มากกว่า