ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง กลายเป็นกระแสข่าวที่คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่ จามิล่า พันธ์พินิจ หรือ มิล่า กามิกาเซ่ อดีตนักร้องสาว ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่ถูกน้องชายแท้ๆ ทำร้ายจนอาการปางตายเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จนทำให้ตัวเธอมีภาวะ PTSD หรือ จิตเภทชนิดหนึ่งที่เกิดจากการได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง จากเหตุการณ์เลวร้าย ในเวลาต่อมา เจนนี่-รติพันธ์ พี่สาวของอดีตนักร้องสาว ออกมาโพสต์อินสตาแกรมถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
หยุดโจมตีคุณแม่ โดยเรื่องนี้ เจนนี่ พี่สาว มิล่า ระบุว่า ขอให้หยุดโจมตีคุณแม่ เพราะทุกฝ่ายต่างเจ็บปวดกันทั้งนั้น และพูดถึงน้องสาวว่า รื่องเกิดมา 2 ปีแล้วทำไมจึงเพิ่งออกมาพูด ต้องการอะไร และพูดถึงความสัมพันธ์ของพี่น้องว่าเป็นอย่างไร
ไม่เคยปกป้องฝ่ายไหน พร้อมกับขอโทษที่ออกมาพูดช้า เพราะทันทีที่ข่าวนี้ออกมาต้องดูความรู้สึกคุณแม่และญาติผู้ใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ก่อน และตนเชื่อว่าไม่มีแม่คนไหนไม่รักลูก ลูกเจ็บ ลูกทะเลาะกัน คนเป็นแม่เจ็บยิ่งกว่า ลูกผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่เคยปกป้องฝ่ายไหน
กลับมาเป็นครอบครัว ซึ่งแม่และตนเป็นห่วงน้องทุกคนมาก และทำให้น้องทุกอย่างเท่าเทียมกันมาเสมอเท่าที่จะทำได้ ที่ผ่านมานั้นตนดูแลน้องตลอด พอไปรักษาจะได้หายแล้วกลับมาเป็นครอบครัวอย่างครอบครัวอื่น พอน้องสาวได้ออกมาชี้แจงแบบนั้น ทำให้แม่ถูกคนอื่นด่า มันเจ็บปวดมาก เรื่องเกิดมา 2 ปี ทำไมเพิ่งมาออกมาพูด
โดนตำหนิทั้งๆ ที่ไม่ใช่เรื่องจริง ตนถูกถล่มซึ่งก็ยอมรับได้ แต่ถ้ามาโดนตำหนิทั้งๆ ที่ไม่ใช่เรื่องจริง ตนรับไม่ได้ เพราะปกติแม่เป็นคนเข้มแข็ง แต่ตอนนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับ ร้องไห้อยู่เรื่อยๆ กราบขอเวลาทุกคนอ่านความจริงฝั่งของตนบ้าง
ข้อมูลไม่ตรงกัน ภายหลังจากที่ เจนนี่-รติพันธ์ พี่สาวออกมาโพสต์ข้อความดังกล่าวแล้ว นักร้องสาว มิล่า ก็โพสต์ข้อความโต้ตอบทันที ระบุว่า ยืนยันว่ามีข้อมูลไม่ตรงกันหลายเรื่อง แต่ไม่อยากเข้าสู่รายละเอียดทั้งหมด เพราะเชื่อว่าจะทําให้คนโจมตีครอบครัวมากขึ้น มั่นใจว่าไม่นานทุกคนจะเข้าใจความจริงของสถานการณ์นี้
เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น พร้อมกับถามกลับว่า ทำไมต้องปกป้องน้องชายที่ทำผิด ทำไมไม่ให้แจ้งความ ทำไมบอกว่าตนควรขอบคุณด้วยซ้ำที่เข้ามาช่วย ไม่งั้นตนคงตายไปแล้ว ซึ่งตนมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย อย่างตอนที่เกิดเรื่องตนขึ้ยรนถพยาบาลคนเดียว เงิน หรือบัตรเครดิตก็ไม่มีติดตัวไป พอไปถึงรพ.ก็ถูกซักถามเรื่องว่ามีประกันหรือไม่ มีบัตรเครดิตหรือไม่ จนตนให้คุณป้านำบัตรเครดิตของตนมาที่ รพ.
พี่สาวมาเป็นคนสุดท้าย พอได้บัตรแล้วทางโรงพยาบาลก็ได้ดําเนินการต่อ สรุปต้องผ่าตัดด่วน และต้องเถียงกันอยู่นานกว่าตนจะได้ถูกส่งไปรพ.ที่ตนต้องการรักษา ซึ่งตอนนั้นพี่สาวมาเป็นคนสุดท้าย ส่วนแม่มาวันถัดไป มีอีกเยอะแต่ตนไม่อยากพูดถึงรายละเอียด เพราะเชื่อว่าจะทําให้คนโจมตีครอบครัวมากขึ้น
สิ่งที่สําคัญคือทําไมต้องปกป้องน้องถึงเขาจะทําผิด ทําไมถึงไม่ให้ตนแจ้งความ ทําไมหลังเหตุการณ์เกิดไม่นานพี่สาวตนถึงบอกว่าควรจะขอบคุณด้วยซ้ำ
เครดิตภาพ : ข่าวสด, อินสตาแกรม : milapanpinij
สมัครบาคาร่าไม่มีขั้นต่ำ ทางเข้า ufabet Credit สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ