ขวางการเดินเรือในคลองสุเอซ ถือได้ว่าเป็นปฏิบัติการช่วยเหลือเรือบรรทุกสินค้า Ever Given ของบริษัท Evergreen Marine Corporation บริษัทสัญชาติไต้หวัน ที่เจอพายุทราย ทำให้เสียหลักเกยตื้นขวางการเดินเรือในคลองสุเอซ ที่เชื่อมต่อระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับทะเลแดง ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยปิดกั้นเส้นทางการเดินเรือเอเชีย ยุโรปทั้งสองฝั่ง ส่งผลกระทบต่อเรือสินค้าที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าวเป็นอย่างมาก
อาจเป็นความผิดพลาดของมนุษย์ ซึ้งต่างฝ่ายต่างระดมสมองเพื่อมาแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ โดยความล่าช้าทุกนาทีเป็นเงินเป็นทอง เพราะข้อมูลจาก Lloyd’s List ระบุว่า สินค้าที่ตกค้างคิดเป็นความสูญเสียค่าใช้จ่ายวันละ 9,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 300,000 ล้านบาท คิดเป็นชั่วโมงละ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประมาณ 12,000 ล้านบาท ส่วนเจ้าหน้าที่อียิปต์ชี้ว่า ต้นตอของเหตุเกยตื้นครั้งนี้อาจเป็นความผิดพลาดของมนุษย์ ไม่ใช่พายุลมแรงอย่างที่สันนิษฐานกันในเบื้องต้น
ทำให้เรือกลับมาลอยลำได้อีกครั้ง ด้าน ผู้จัดการฝ่ายเทคนิคของเรือเอเวอร์ กิฟเวน ระบุด้วยว่า เรือลาก 11 ลำกำลังหาทางทำให้เรือกลับมาลอยลำได้อีกครั้ง รวมทั้งมีการขุดทรายและโคลนโดยรอบ ขณะที่แหล่งข่าวสองคนของสำนักงานบริหารจัดการคลองสุเอซ (เอสซีเอ) เปิดเผยว่า เรือขุดลอกที่ช่วยกันขุดทรายรอบเรือ รวมทั้งเรือลากที่ช่วยดึงและดันให้เรือลอย ทำให้เรือเอเวอร์ กิฟเวน ขยับเขยื้อนได้เพียงเล็กน้อย
ก่อนที่เรือลากอีก 2 ลำจากเนเธอร์แลนด์และอิตาลีเข้ามาสมทบเพื่อช่วยเหลือแล้ว ส่วนกองทัพเรือสหรัฐฯ ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือขุดลอกและลากเรือลำดังกล่าวออกจากน่านน้ำอียิปต์
ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น การที่คลองสุเอซใช้การไม่ได้นั้นยังส่งผลกระทบต่อความล่าช้าในการขนส่งสินค้าของบริษัทขนส่งสินค้าจำจวนมาก นอกจากนี้ยังต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากความล่าช้าในการขนส่งสินค้า หากยังไม่สามารถใช้คลองสุเอซได้ ผู้ขนส่งสินค้าอาจเปลี่ยนไปใช้เส้นทางแหลมกู๊ดโฮปแทน ซึ่งต้องใช้เวลานานขึ้นเกือบ 2 สัปดาห์และต้นทุนน้ำมันเพิ่ม ทำให้ขณะนี้ยังไม่มีเรือลำใดตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทาง
กระทบต่อทัศนวิสัยการมองเห็น เรือเอเวอร์ กิฟเวน ยาว 1,300 ฟุต และมีน้ำหนัก 200,000 ตัน ติดอยู่ในคลองสุเอซ สาเหตุจากลมแรงและพายุทรายที่ส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยการมองเห็น และพบว่ามีหินขนาดใหญ่อยู่ใต้บริเวณด้านหน้าของเรือ ทำให้ความพยายามปลดปล่อยเรือเป็นไปอย่างยากลำบาก
เรือขุดได้ทำการเคลื่อนย้ายทรายมากว่า 950,000 ลูกบาศก์ฟุต และขุดลึกไปเกือบ 60 ฟุต แต่เรือก็ยังคงติดอยู่ดี ขณะที่องค์การคลองสุเอซบอกว่ามีสัญญาณความคืบหน้าเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้รัฐบาลอียิปต์จึงได้สั่งให้เตรียมพร้อมเริ่มถ่ายโอนตู้คอนเทนเนอร์บางส่วนจากทั้งหมด 18,300 ตู้ลงจากเรือ เพื่อทำให้เรือมีน้ำหนักบรรทุกเบาลง
เปิดคลองสุเอซ ล่าสุด ทีมกู้ภัยเรือจากองค์การคลองสุเอซ (SCA) ยืนยันว่า เรือเอเวอร์ กีฟเวน ได้ถูกดึงกลับมาอยู่ในแนวขนานกับคลองได้แล้ว จากนั้นทีมกู้ภัยได้ปฏิบัติการลากเรืออีกครั้งหลังจากที่กระแสน้ำขึ้น คาดว่าจะสามารถเปิดคลองสุเอซให้เรือสินค้าได้สัญจรตามปกติ หลังจากที่เรือเอเวอร์ กีฟเวน ถูกนำไปยังว Great Lake ที่ถือได้ว่าเป็นจุดที่ลำคลองกว้างเป็นพิเศษ
เครดิตภาพ : ผู้จัดการออนไลน์, www.fm91bkk.com
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////