ตะลึง!เหมือนถ่ายฉากหนังบู๊! ตูมสนั่นเรือ!ไฟลุกท่วมกลางแม่น้ำ
เหตุเกิดขณะที่เรือยนต์ลากจูงกำลังลากเรือพ่วงเหล็ก 3 ลำจากอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานีเพื่อไปรับบรรทุกทรายที่อำเภอป่าโมก แต่ระหว่างนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน มีเสียงระเบิดตูม! ดังสนั่นไปทั่วบริเวณที่เกิดเหตุ คนขับเรือพร้อมแม่และลูกที่มาด้วยกันที่อยู่บนเรือ ต้องพากันกระโดดน้ำหนีตาย จนเพลิงลุกไหม้ลามจนวอดหมดทั้งลำ สุดท้ายเรือก็จมน้ำในที่สุด
เมื่อวันที่ 14 ม.ค.64 เมื่อเวลา 11.45 น. ร.ต.อ.ปัญญา อามาตย์เสนา ร้อยเวรสอบสวนสภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้เรือยนต์ลากจูง บริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่ 2 ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงประสานเรือดับเพลิงของเทศบาลพระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู รุดให้ความช่วยเหลือและตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่ากลางแม่น้ำพบเรือยนต์หัวลากลำหนึ่งกพลังเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เปลวเพลิงลุกอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ไม่สามารถฉีดน้ำสกัดได้ เพราะเรือยนต์หัวลากลอยไปอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาอีกฝั่ง จึงต้องประสานเรือเจ็ตสกีของของสมาคมอยุธยารวมใจจำนวน 2 ลำ ทำการช่วยเหลือ โดยใช้วิธีฉีดน้ำขึ้นไปบนเรือ แต่ก็สามารถควบคุมสกัดเพลิงได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นแต่ไม่สามารถดับได้สนิท ระหว่างที่ฉีดน้ำดับไฟไปก็เกิดการระเบิดขึ้นอีก 2 ครั้ง จึงต้องประสานเรือดับเพลิงของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยามาทำการช่วยฉีดน้ำสกัดเพิ่ม ก็ยังไม่สามารถคุมเพลิงได้ อีกราว 30 นาที ต่อมา เพลิงจึงสงบเหลือแต่กลุ่มควัน แต่เนื่องจากเรือยนต์ลากจูงได้รับความเสียหายจากถูกเพลิงไหม้อย่างหนัก ท้ายที่สุดก็ค่อยๆจมลงในแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งลำ
นายธวัชชัย ภู่จันท์ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เรือนั้นลากพ่วงมา 3 พ่วง ก่อนเสียการทรงตัว คนขับพยายามบังคับเรือเข้าตลิ่ง แต่เรือเกิดระเบิดตูมเสียงดังสนั่น คนขับเรือได้ตัดเชือกลากจูงออก ก่อนที่จะพาลูกและเมีย กระโดดน้ำเข้าฝั่งด้วยความปลอดภัย
นาย วิเชียร แก้วทอง อายุ 70 ปี 101/52 ม.3 ต.กระแชง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เจ้าของเรือ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุได้ลากเรือเหล็ก(เรือเปล่า) จำนวน 3 ลำ ขณะนั้นเทอร์โบของเรือได้เกิดระเบิดขึ้นจนเพลิงลุกไหม้ ตนจึงพยายามบังคับเรือแล้วได้ตัดเชือกเรือออก จากนั้นแรงลมก็ได้พัดเรือไปจนเกือบถึงฝั่ง ตน ภรรยา และลูกสาวจึงได้รีบกระโดดออกจากเรือ ขณะที่เพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ว โชคดีทุกคนปลอดภัย ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างไร จากนั้นเรือก็ลอยไปเกือบชนหลังคาบ้านหลังหนึ่ง แต่กระแสลมได้พัดเรือออกไปกลางฝั่งอีกครั้ง จึงทำให้หลังคาบ้านชาวบ้านหลังนั้นเสียหายเล็กน้อย โดยเรือของตนนั้นชื่อเรือ สินทิวา ถูกเพลิงไหม้และจมลงไปในน้ำ ส่วนสาเหตุคาดว่าสายน้ำมันคงจะชำรุด และเกิดประกายไฟ ทำให้ไฟไหม้ในครั้งนี้ ส่วนความเสียหายยังประเมินค่ายังไม่ได้
ด้าน นางอารยา บัวลอย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 2 ตำบลภูเขาทอง เจ้าของบ้านที่เสียหายเล็กน้อย กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนอยู่บนบ้านและได้ยินเสียงระเบิดดังตูม!ขึ้นกลางแม่น้ำ จึงชะโงกหน้าไปมอง ก็เห็นไฟลุกไหม้เรืออยู่ ด้วยกระแสลมที่แรงมาก ทำให้พัดเรือเข้ามาชิดเกือบติดกับบ้านของตน จนทำให้ไฟที่ลุกไหม้ติดกับหลังคาบ้าน โชคดีมีชาวบ้านช่วยกันฉีดน้ำสกัดได้ทัน และกระแสลมได้พัดเรือออกไปอยู่กลางแม่น้ำ ไม่เช่นนั้นบ้านตนอาจจะไฟไหม้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวน คนขับเรืออย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการเกิดเหตุที่แท้จริงต่อไป.