เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 16 มกราคม 2564 พ.ต.ต.วันชัย แสงอ่วม สว. สภ.บ้านบึง ได้รับแจ้งจากเจ้าของไร่อ้อยว่าได้พบศพใครก็ไม่ทราบ ผูกคอเสียชีวิตอยู่บริเวณหลังร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด ตรงข้ามศาลเจ้าซาโกเล่าเอี๊ยะ หมู่ 1ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านบึงและหน่วยกู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึง
ในที่เกิดเหตุพบศพ นายซอ เลาวิน อายุ 38 ปี ชาวเมียนมา เสียชีวิตสภาพผูกคอกับกิ่งต้นกระถินสูง สภาพศพลำตัวแห้งเหี่ยว มีแต่หนังหุ้มกระดูก ศพสวมเสื้อยืดสีเหลืองแขนสั้น กางเกงยีนส์ขาสั้น พบหลักฐานเพิ่มเติมโดยน่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือของผู้ตายตกอยู่บนพื้นดินที่บริเวณใต้ศพ ที่ลำคอพบเข็มขัดหนังสีดำคล้องคอมัดกับง่ามต้นกระถินจนแน่น สภาพศพแห้งเกรอะกรังและสวมหน้ากากปิดปากคาดที่ใบหู เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตลงมาชั้นสูตรเบื้องต้น และทางทีมแพทย์ชันสูตรดู
เบื้องต้นระบุว่าน่าจะเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่าหนึ่งเดือน จึงได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปที่โรงพยาบาลเพื่อชันสูตรเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบถามนาย ธนาชัย สุขวัฒนกูล อายุ 69 ปี เจ้าของไร่อ้อยและเป็นคนที่แจ้งความกับตำรวจ ได้เปิดเผยว่า ตนเห็นว่า ทางที่จะให้รถวิ่งเข้าออกมันมีหญ้าขึ้นปกคลุมรกมาก อาจจะมีสัตว์มีพิษจำพวกงูเข้ามาอาศัย ตนจึงได้มาถางหญ้าให้เตียนและโล่งจนกว้างมากพอที่จะเป็นทางให้รถสามารถวิ่งเข้าวิ่งออกได้อย่างสะดวก
ในขณะที่กำลังถางหญ้าอยู่นั้น ตนก็บังเอิญเห็นเหมือนมีอะไรแขวนห้อยอยู่บนต้นไม้ในระยะไกล และสังเกตุเห็นด้วยว่ามีเสื้อผ้าเก่าๆ สวมอยู่ ตอนแรกก็นึกในใจว่าคงมีใครหรือมีพวกเด็กๆ มาทำเป็นหุ่นหลอกๆ ไว้ไล่นกไล่กา แต่พอเดินมาดูใกล้ๆ ถึงกับผงะและตกใจสุดขีด วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต พบว่าเป็นศพคนตายจริงๆ สภาพศพเหี่ยวแห้งเหลือแต่โครงกระดูกที่ใส่เสื้อผ้าอยู่ ไม่ใช่หุ่นไล่กาอย่างที่คิดในตอนแรก จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจเพื่อให้เข้ามาตรวจสอบในทันที
เดือนก่อนที่ผ่านมา ช่วงหลังปีใหม่ มีชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุมาบอกให้ตนฟังว่า ได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง โชยมาจากบริเวณที่เกิดเหตุเป็นพักๆ ยิ่งถ้ามีลมพัดมา กลิ่นยิ่งเหม็นรุนแรงมาก แต่ตนก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ตนคิดว่าว่าคงเป็นพวกสัตว์ที่ตายอยู่บริเวณนั้น โดยอาจจะเป็นสุนัขหรือไม่ก็แมว เพราะแถวนี้เป็นสวนมีป่าหญ้าขึ้นสูง เคยมีคนชอบเอาสุนัขและแมวที่ตายแล้วมาทิ้งหรือเอาไปฝัง จนกระทั่งตนและคนงานมาช่วยกันถางป่าหญ้าและไถไร่บริเวณป่าอ้อยจึงมาเห็น จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยให้มาตรวจสอบดังกล่าว ถึงรู้ว่าเป็นศพคนผูกคอตัวเองจนเสียชีวิตมานาน
ส่วนสาเหตุการที่ผู้ตายผูกคอตายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าผู้ตายคงมีปัญหาชีวิตส่วนตัวหรือปัญหาเครียดทางการเงินในช่วงโควิดระบาดรอบสอง ซึ่งก็ตรงกับช่วงวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ แต่ผู้ตายก็ไม่สามารถเดินทางกลับไปยังประเทศของตนเองได้ อันเนื่องมาจากมาตราการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดที่รัฐบาลประกาศห้ามแรงงานต่างด้าวเดินทางออกจากพื้นที่ จึงน่าจะเกิดความคิดถึงบ้านและเครียดจัด จึงคิดสั้นผูกคอตัวเองด้วยเข็มขัดหนังจนเสียชีวิตดังกล่าว