เสียชีวิตจากการจมน้ำ กรณีการเสียชีวิตของ นายทองนพเก้า สีทา หรือ น้องปอนด์ นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ โดยพบว่าเสียชีวิตจากการจมน้ำระหว่างเข้าร่วมกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ ขณะที่ครูผู้ดูแลและผู้ควบคุมฐานดังกล่าว ยืนยันไม่มีการบังคับเด็กให้ลงน้ำ และคาดเด็กน่าจะเสียชีวิตหลังจบกิจกรรมแล้ว
ว่ายน้ำไม่เป็น ด้าน นายเอก (นามสมมติ) เพื่อนน้องปอนด์ เผยว่า ตนกับปอนด์เป็นเพื่อนสนิทกัน และเพื่อนร่วมชั้นเรียนทุกคนต่างก็รู้ว่าปอนด์ว่ายน้ำไม่เป็น ซึ่งก่อนเข้าร่วมกิจกรรมฐานหนีสงครามหลบระเบิด ปอนด์มีท่าทีเป็นกังวลมาก จึงได้ร้องบอกตนและเพื่อนๆ ว่าคอยดูแลเขาด้วย เพราะเขากลัวน้ำและว่ายน้ำไม่เป็น
ในการเข้าฐานหนีสงครามหลบระเบิด จะมีลูกเสือกลุ่มละ 8-10 คน ลงไปแช่ตัวอยู่ในน้ำ เพื่อดำน้ำ มุดน้ำ หลบหนีก้อนดินโคลนที่ครูโยนลงมา ซึ่งตนอยู่คนละกลุ่มกับปอนด์ ตนเลยไม่มีเวลาจับตาดูปอนด์ตลอดเวลา เนื่องจากครูฝึกให้ตนไปเข้ากิจกรรมฐานต่อไป จึงไม่มีรู้ว่าปอนด์หายไปตอนไหน และตอนก่อนจะลงน้ำหรือขึ้นมาจากน้ำไม่มีการตรวจเช็กชื่อและจำนวนนักเรียน
เป็นคนกลัวน้ำ ในเวลาต่อมามีพิธีฌาปนกิจศพ น้องปอนด์ ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติและเพื่อนๆ นักเรียน โดยเฉพาะ นางบัวรื่น สีทา อายุ 48 ปี แม่ของน้องปอนด์ ที่อยู่ในอาการโศกเศร้า และไม่เชื่อว่าลูกชายจะจมน้ำเสียชีวิตหลังลงไปล้างตัวหลังเสร็จกิจกรรม คาดว่าน่าจะจมน้ำขณะเข้าฐาน เพราะตั้งแต่เล็กจนโตลูกชายไม่เคยลงไปในหนองน้ำสาธารณะแห่งนี้คนเดียว แม้จะอยู่ใกล้บ้าน เนื่องจากว่ายน้ำไม่เป็นและเป็นคนกลัวน้ำ จึงมั่นใจว่าจะไม่ยอมลงไปคนเดียวอย่างเด็ดขาด
ตั้งข้อสังเกต ซึ่งตนและญาติยังตั้งข้อสังเกตว่าทำไมทางโรงเรียนและคณะครู จึงต้องให้เด็กลงไปในน้ำที่มีความลึกและเสี่ยงขนาดนี้ โดยไม่มีมาตรการป้องกันและเตรียมความพร้อมจัดอุปกรณ์เสื้อชูชีพ หรือห่วงยางเอาไว้คอยช่วยเหลือ และเรื่องที่ น้องปอนด์ หายตัวไปแต่กลับไม่มีความกระตือรือร้นในการออกตามหาอีกด้วย
เข้าแจ้งความ นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้ให้ นางบัวรื่น และนายสมภาร แม่และพ่อเลี้ยงของน้องปอนด์ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.อัศวิน หงส์โยธี พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์
ข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดย นายรณรงค์ เผยว่า หลังเกิดเหตุผู้ปกครองและญาติได้ให้ตนเข้ามาเป็นทนายดูแลเรื่องนี้ โดยจะมีการดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง ทางอาญา และทางวินัย เบื้องต้นเพื่อให้ดำเนินคดีกับครูผู้ดูแลควบคุมฐาน และคณะครูโรงเรียนนาค้อวิทยาคม ที่เกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือในครั้งนี้ ข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และดำเนินคดีคาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ กรณีพบครูตั้งวงดื่มสุรากันในสถานศึกษา
ยังไม่พร้อมให้ปากคำ ด้าน พ.ต.ท.สมภาร แสนคำ รองผกก.(สอบสวน) สภ.ห้วยเม็ก เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้เรียกที่เกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือทั้งหมด รวมทั้งผู้อำนวยการโรงเรียนมาสอบปากคำแล้ว โดยส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมให้ปากคำและได้ขอเลื่อนไปก่อน
ดำเนินคดีกับคณะครู ส่วนผู้ปกครองของเด็กที่เสียชีวิตได้เข้าแจ้งความ เพื่อประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับคณะครู ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งและลงบันทึกประจำวันเอาไว้เรียบร้อยนแล้ว รวมถึงเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่และเก็บหลักฐานไว้ก่อนหน้านี้แล้วด้วย
เครดิตภาพ : ผู้จัดการออนไลน์, ข่าวสด, www.one31.net, เพจ ทนายคู่ใจ
////////////////////////////////////////////////////////////