รับมอบวัคซีนโควิด-19 นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม พร้อมด้วย ภญ.ศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รอง ผอ.องค์การเภสัชกรรม และ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค รับมอบวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค จำนวน 1 ล้านโดส จากประเทศจีน ที่ขนส่งโดยสายการบิน Air China Airline เที่ยวบินที่ CA603 เส้นทางปักกิ่ง-กรุงเทพมหานคร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ล็อตที่ 3 จำนวน 1 ล้านโดส โดย นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า จากที่รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขโดยองค์การเภสัชกรรมดำเนินการจัดหาวัคซีนโควิด-19 เร่งด่วน จำนวน 2 ล้านโดส โดยมีการเจรจาจัดซื้อจากบริษัท ซิโนแวค ไลฟ์ ซายน์ จำกัด สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการจัดส่งมาแล้วล็อตแรก เมื่อเดือน ก.พ. จำนวน 2 ล้านโดส และล็อตที่ 2 เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา จำนวน 8 แสนโดส และล่าสุดล็อตที่ 3 จำนวน 1 ล้านโดส
ตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐาน จากนั้นจะดำเนินการตรวจรับและส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐาน และเอกสารต่างๆ อีกครั้ง และเมื่อผ่านการตรวจสอบทุกขั้นตอนแล้ว จะส่งให้กรมควบคุมโรคตรวจรับวัคซีนและกระจายไปยังหน่วยบริการ และสถานพยาบาลต่างๆ เพื่อฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายตามแผนที่กำหนด
เพื่อให้ทุกคนในประเทศไทยเข้าถึงวัคซีน พร้อมกันนี้ นพ.วิฑูรย์ ยังกล่าวต่อไปว่า ประมาณปลายเดือนเมษายนนี้จะมีการส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวคจากประเทศจีนอีก จำนวน 5 แสนโดส ที่องค์การเภสัชกรรมได้สั่งซื้อเพิ่มเติมไว้ โดยวัคซีนซิโนแวค นีจะเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทยที่เป็นไปตามแผนงานกระทรวงสาธารณสุขที่วางไว้อย่างรัดกุมและเป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนในประเทศไทยเข้าถึงวัคซีนที่มีคุณภาพ ปลอดภัย เพื่อลดอัตราการป่วยและเสียชีวิต
วัคซีนทางเลือก นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวถึงเรื่อง วัคซีนทางเลือก ที่ทางรัฐบาลเปิดโอกาสให้โรงพยาบาลเอกชนจัดหาวัคซีนโควิด-19 จำนวน 10 ล้านโดส มาเพื่อกระจายฉีดให้แก่ประชาชนที่มีความต้องการในการฉีดวัคซีน
กระทรวงสาธารณสุขยินดีอย่างยิ่ง โดยเรื่องนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขยินดีอย่างยิ่ง หากภาคเอกชนจะเข้ามาแบ่งเบาภาระ รวมถึงที่ผ่านมาได้ให้เอกชนไปหารือกับผู้ผลิตหาวัคซีนมาขึ้นทะเบียน และให้บริการโดยไม่มีการห้าม หากเอกชนไปหารือกับทางไฟเซอร์สำเร็จ ก็นำมาขึ้นทะเบียนกับ อย.ได้
เพื่อให้ไทยได้วัคซีนเข้ามาใช้ กระทรวงสาธารณสุขทำทุกทาง เพื่อให้ไทยได้วัคซีนเข้ามาใช้อย่างเหมาะสม เคยพูดคุยกับผู้ผลิตแห่งซึ่งผู้ผลิตก็พร้อมขึ้นทะเบียนกับไทย แต่มีเงื่อนไขว่าไทยต้องซื้อวัคซีนเท่านี้ จัดส่งได้ตามระยะเวลานี้ ซึ่งไทยไม่ได้ต้องการขนาดนั้น และระยะเวลาการจัดส่งก็อาจจะช้าไปแล้ว การพูดคุยจึงยุติลง
ขึ้นทะเบียนวัคซีน พร้อมกับกล่าวต่อว่า ปัจจุบันไทยขึ้นทะเบียนวัคซีนไปแล้ว 3 ยี่ห้อ ได้แก่ แอสตราเซนนิกา, ซิโนแวค และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งแบรนด์ตัวสุดท้ายไทยได้ขอซื้อแล้ว แต่ทางนั้นจะทำการส่งวัคซีนได้ช่วงปลายปี ชนกับรอบการผลิตของแอสตราเซนนิกาพอดี ซึ่งในตอนนั้นเราไม่มีความจำเป็นขนาดนั้นแล้ว
น่าจะคลี่คลายในเร็ววันนี้ ต่อข้อถามถึงสถานการณ์ของโรงพยาบาลเอกชน ที่ส่วนใหญ่ประกาศไม่รับตรวจหาเชื้อโควิด-19 นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ได้หารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ปัญหา คือ โรงพยาบาลเอกชนถ้าตรวจเจอแล้วต้องรักษา จึงกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งภาครัฐได้เข้าไปคุยแล้วว่าจะจัดการตรงนี้ให้ ปัญหาตรงนี้น่าจะคลี่คลายในเร็ววันนี้ สำหรับประชาชนนั้นทางโรงพยาบาลของรัฐยังคงให้บริการอยู่
ขอให้คนไทยยกการ์ดให้สูง ขณะนี้มาตรการที่ออกมาก็เข้มขึ้น หวังว่าจะสามารถกดยอดผู้ป่วยลงได้ในเร็ววันนี้ แต่ถึงสถานการณ์จะแย่ลง กระทรวงสาธารณสุขก็ได้เตรียมการไว้อย่างครบถ้วน ทั้งเตียง, ยา, เวชภัณฑ์, อุปกรณ์ป้องกัน และบุคลากรด้านการสาธารณสุข ขอให้คนไทยยกการ์ดให้สูง เพราะเชื่อสายพันธุ์อังกฤษนั้นแพร่ได้ง่ายกว่า ขอให้คนไทย ระวัดระวังตนเองมากขึ้น
เครดิตภาพ : สยามรัฐ, www.newtv.co.th
////////////////////////////////////////////////////////
Credit ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ