ไฟป่าเชียงใหม่ทำค่า PM2.5 พุ่งสูง

ไฟป่าเชียงใหม่ทำค่า PM2.5 พุ่งสูง

ไฟป่า เกิดไฟป่าขึ้นอีกครั้งที่บริเวณภาคเหนือ โดยครั้งนี้เหตุเกิดขึ้นที่ ภูเขาไฟสะเมิง (บ้านท่าศาลา) อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังพร้อมเฮลิคอปเตอร์ดับน้ำกว่า 40 เที่ยวบินกว่าเพลิงจะสงบลงได้ 

ร่วมกันควบคุมไฟ โดย นายจักรา ดิษยนันท์ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าสะเมิง เผยว่า ได้เกิดไฟป่าบนภูเขาบริเวณบ้านศาลา ต.สะเมิงใต้ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าขุนขาน-สะเมิง สบอ.16 ชุดเหยี่ยวไฟ กรมป่าไม้และชุดอาสาดับไฟของหมู่บ้านได้ร่วมกันควบคุมไฟ โดยการดับและทำแนวกันไฟเพื่อสกัดไฟ โดยมี เฮลฃิคอปเตอร์ของ ทส.จำนวน 2 ลำ บินสนับสนุนทิ้งน้ำ สามารถควบคุมไฟได้บางส่วน 

ไฟป่าเชียงใหม่ทำค่า PM2.5 พุ่งสูง 02

ไฟไหม้รุนแรงควบคุมได้ยาก  ซึ่งการปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความยากเนื่องจากเป็นเขาสูง ทั้งยังมีผาหิน และเป็นป่าไผ่แห้ง ไฟไหม้รุนแรงควบคุมได้ยาก ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้เกิดไฟป่านานถึง 3 ปี ทำให้เกิดการสะสมของเชื้อเพลิง จึงทำให้ไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็ว

แนวกันไฟป้องกันการลุกลามไปพื้นที่อื่น  จนต้องเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินอีก 24 นาย รวมเป็น 50 นาย ขึ้นไปทำแนวกันไฟจนสามารถควบคุมไฟป่าให้อยู่ในวงจำกัด แต่ยังมีไฟป่าบางจุดที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าดับได้ เนื่องจากเป็นหน้าผาสูงชัน จึงได้ทำแนวกันไฟป้องกันการลุกลามไปพื้นที่อื่น พร้อมวางกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงจนกว่าจะสามารถควบคุมไฟป่าได้ทั้งหมด

ไฟป่าเชียงใหม่ทำค่า PM2.5 พุ่งสูง 03

เสียหายประมาณ 50 ไร่ ในเวลาต่อช่วงบ่ายวันที่ 30 มี.ค. ได้ขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ช่วยในการควบคุมไฟป่า 2 ลำ 40 เที่ยว โดยมีจนท. สถานีไฟป่าขุนขาน-สะเมิง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติขุนขาน เจ้าหน้าที่เหยี่ยวไฟ(กรมป่าไม้) เครือข่ายฯบ้านดงช้างแก้ว บ้านศาลา-ป่ากล้วย จำนวน 26 คนก่อนที่ไฟป่าจะลุกลามไหม้บนภูเขาพื้นที่บ้านศาลา ต.สะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ช่วงหัวค่ำ เบื้องต้นคาดว่ามีพื้นที่ป่าได้รับความเสียหายประมาณ 50 ไร่

ค่าคุณภาพอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ สืบเนื่องขจากการเกิดไฟป่านั้น จากข้อมูลภาพจากดาวเทียมฮิมาวาริ (Himawari) และดาวเทียมอื่นๆ ของระบบการติดตามปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ของวันที่ 30 มี.ค พบว่าในพื้นที่ของภาคเหนือพบค่าคุณภาพอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) โดยเฉพาะในพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย ที่พบค่า AQI สูงถึง 247 ตามด้วยที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่มีค่า AQI อยู่ที่ 113 

ไฟป่าเชียงใหม่ทำค่า PM2.5 พุ่งสูง 04

เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า นอกจากนี้ ยังพบว่าข้อมูลภาพจากดาวเทียมระบบ MODIS เฝ้าติดตามสถานการณ์ความเสี่ยงพื้นที่เกิดไฟป่าอย่างต่อเนื่อง จากภาพแสดงให้เห็น 17 จังหวัดภาคเหนือ เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าในช่วง 29 มี.ค.-4 เม.ย. 2564

พื้นที่เสี่ยงสูงสุด โดยพบ 3 จังหวัดมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดไฟป่า ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดน่าน และจังหวัดตาก ตามลำดับ ซึ่งเป็น 3 พื้นที่เสี่ยงสูงสุดติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 แล้ว ส่วนอีก 14 จังหวัดที่เหลือยังคงมีพื้นที่เสี่ยงกระจายอยู่โดยรอบ เนื่องจากสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น และสภาพพื้นผิวแห้งแล้งอาจจะทำให้เกิดประกายไฟได้ง่าย โดยพื้นที่ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษคือ จังหวัดเชียงราย และจังหวัดแม่ฮ่องสอน

เครดิตภาพ :

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

TAG

Tag
112 (1) covid 19 (1) DACA (1) DACA (Deferred Action of Childhood Arrivals) (1) Dreamer (1) hot (3) pornhub (1) pornhub award (1) Pornhub Awards (1) กาละแมร์ (2) ข่าว (2) ข่าวประจำวัน (3) ข่าวโควิด (3) คำค้นหายอดนิยม (1) คำค้นหายอดนิยมในไทยประจำปี 2563 (1) จุดเสี่ยงในการระบาดละลอกใหม่ (1) ชาวเมียนมา (1) น้องชมพู่ (2) บ้านโป่ง (1) ประท้วงฮ่องกง (1) ปารีณา (1) ผู้ติดเชื้อย่านประชาชื่น (1) พม่า (1) พระมหาสมปอง (1) พระมหาไพรวัลย์ (1) พส. (1) ฟาร์มเฟส (1) รพ.แม่สอด (1) ลุงพล (1) วัคซีน covid 19 (1) สวมสิทธิ์ทุเรียนเพื่อนบ้าน (1) สั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเลสดและแช่แข็ง (1) หวย (2) หวยดังงวดนี้ (4) อนุทิน (1) อัพเดทโควิด (1) เชียงใหม่ (2) เพิ่มทุเรียนถือเป็นสินค้าที่ต้องเฝ้าระวัง (1) เลขเด็ดงวดนี้ (1) โควิคด-19 (7) โควิด (30) โควิด-19 (3) โควิด19 (18) โควิดประชาชื่น (1) ไทยไปดวงจันทร์ (1)