ไฟไหม้อาคาร 3 ชั้น จากกรณีไฟไหม้อาคาร 3 ชั้น เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 3 เม.ย.ปลูกอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา ในหมู่บ้านกฤษฎานคร 31 เขตทวีวัฒนา ที่ตั้งบริษัท โลกโสภา จำกัด โดยมีผู้ที่คนในบ้านรวม 8 คนหนีตาย ออกมาได้เพียง 7 คน เหลือเลขาฯ เจ้าของบริษัทหนีไปอยู่ในห้องน้ำชั้นล่าง ก่อนที่อาคารดังกล่าวจะพังถล่มลงมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ รวม 5 ราย
ช่วยดับเพลิง โดยหลังจากได้รับแจ้งเหตุได้ประสานรถน้ำดับเพลิงสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มาช่วยดับเพลิงที่บ้านหลังดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำท่ามกลางเพลิงที่โหมแบบไม่มีทีท่าจะหยุด เพราะภายในอาคารดังกล่าวนั้นมีสิ่งของที่ถือได้ว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นหนังสือกว่าหมื่นเล่ม, หน้ากากอนามัย รวมถึงเจลแอลกอฮอลล์
อาคารทั้งหลังทรุดตัวถล่มลงมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการดับเพลิง และเข้าไปช่วยผู้ที่ติดอยู่ในอาคารดังกล่าว กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่ออาคารทั้งหลังทรุดตัวถล่มลงมากองกับพื้น ทำให้เจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นต่างพากันวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น
หลังจากที่เกตุการณ์สงบเจ้าหน้าที่ที่เหลือต่างพากันตรวจสอบเพื่อหาเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ติดอยู่ในซากอาคารดังกล่าวอย่างเร่งด่วน จากหน่วยวานกว่า 100 คน ก่อนจะพบว่ามีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเสียชีวิตคาซากตึก จำนวน 3 คน
ประกอบด้วย นายสมัญญา หรือ ชล นิลธง อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย, นายอรรถพล หรือ ป็อบ ท้วมทอง พบศพเสียชีวิตอยู่คู่กันบริเวณด้านข้างตัวบ้าน และ นายธนภพ หรือ ต้น อพปร.เทศบาลนนทบุรี ถูกปูนทับเสียชีวิตอยู่ช่วงกลางตัวบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำศพออกมาอย่างทุลักทุเล
ในเวลาต่อมาพบผู้ได้รับบาดเจ็บอีกคนติดอยู่ใต้ซากตึก คือ นายสุรศักดิ์ เปลี่ยนกลัด หรือ เค มีบาดแผลตามลำตัวและขาหักทั้ง 2 ข้าง เจ้าหน้าที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ แล้วใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างออกมาส่งโรงพยาบาลสำเร็จ ขณะกำลังค้นหาและช่วยเหลือผู้ติดอยู่ใต้ซาก ไฟยังคุขึ้นมาอยู่ตลอดเวลาต้องคอยฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอด
ซึ่งการช่วยเหลือนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาจากซากตึกดังกล่าวนั้นใช่เวลาร่วม 24 ชม. ตชจนกระทั่งเช้าวันที่ 4 เม.ย. เจ้าหน้าที่พบและนำร่างของ นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด อายุ 38 ปี อาสาสมัครกู้ภัย และนายเกียรติ แพทเตอร์สัน อายุ 35 ปี หนึ่งในผู้ที่พักอาศัยออกมาได้
โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ได้นำธงชาติมาคลุ่มร่างของเจ้าหน้าที่ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วยตัวเอง
ซึ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านและสามารถหนีรอดชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ได้เล่าถึงช่วงที่เกิดเหตุการณ์ว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ตู้พัก รปภ.เก่า ปัจจุบันใช้เป็นห้องเก็บของและเก็บที่นอนเก่า รวมถึงมีการติดตั้งปั๊มลมสำหรับฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ ซึ่งเสียบปลั๊กไว้ตลอดเวลา แต่ส่วนตัวไม่ทราบสาเหตุการเกิดประกายไฟ เห็นเพียงว่าประกายไฟลุกลามเร็วมาก จึงรีบไปปลุกคนในบ้านและรีบหนีตายกันออกมา ยืนยันว่าบ้านหลังดังกล่าวในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้ต่อเติมดัดแปลงตัวบ้านแต่อย่างใด
ด้าน นายพรเลิศ เพ็ญพาส ผู้อำนวยการเขตทวีวัฒนา ยืนยันว่า เขตกำลังตรวจสอบใบขออนุญาตและการออกเลขบ้าน เพื่อตรวจสอบว่าบ้านนี้ปลูกสร้างมาปีไหน ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นค่อนข้างหายาก เนื่องจากบ้านมีอายุมากกว่า 10 ปี และแจ้งเป็นลักษณะพักอาศัย แต่ทำธุรกิจในลักษณะขายอุปกรณ์ว่ายน้ำ ชุดว่ายน้ำ รวมถึงไม่พบการต่อเติมบ้าน สาเหตุเชื่อว่าไม่ใช่เป็นเพราะบ้านเก่าอย่างเดียว แต่อาจมีเรื่องความร้อน การขยายตัวของเหล็ก น้ำหนักการฉีดน้ำ การก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ต้องให้พิสูจน์หลักฐาน และวิศกรรมสถานเข้ามาตรวจสอบรายละเอียดต่อไป
เครดิตภาพ : มติชนออนไลน์, สยามรัฐ, www.brighttv.co.th
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////