เจ้าหน้าที่ตำรวจวางแนวป้องกันโดยรอบ ยังคงมีการรวมกลุ่มชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง บริเวณหน้าหอศิลป์วัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรม “รวมพลไม่มีจะกิน ตีหม้อไล่เผด็จการ” ของกลุ่มราษฎร โดยมีการนัดรวมพลกันเวลา 16.00 น. มีกลุ่มผู้ชุมนุมทยอยเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจวางแนวป้องกันโดยรอบ และมีการตรวจกระเป๋าของผู้ที่ผ่านเข้าไปในบริเวณที่มีการชุมนุม เพื่อป้องกันการทำอาวุธเข้าไปภายในบริเวณดังกล่าว
อ่านประกาศขอให้ยุติการชุมนุม เมื่อเวลา 17.05 น. พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน ได้อ่านประกาศขอให้ยุติการชุมนุม เนื่องจากผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.ควบคุมโรค ระหว่างนั้นแนวร่วมที่มาเข้าการชุมนุมนั้นต่างพากันเคาะหม้อ ชูสามนิ้ว และด่าทอแสดงความไม่พอใจ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นำรถขยายเสียงมาอ่านประกาศในครั้งนี้ พร้อมด้วยตำรวจควบคุมฝูงชน ที่ยืนถือโล่เป็นกำแพงล้อมบริเวณหน้ารถ เพื่อดูแลป้องกันความเรียบร้อย แต่ดูเหมือนว่าผู้ชุมนุมจะไม่ยอมยุติการชุมนุม
เรื่องการเยียวยาไม่ได้รับทุกคน ในเวลาต่อมา นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ แกนนำกลุ่มราษฎร ได้ขึ้นปราศรัยหลายประเด็น รวมถึงกรณีที่มีการประชาสัมพันธ์ว่าไทยจะเป็นศูนย์กลางผลิตวัคซีนป้องกัน โควิด-19 ให้อาเซียน แต่ประเทศเพื่อนบ้านกลับได้ฉีดวัคซีนกันหมดแล้ว ส่วนเรื่องการเยียวยาก็ไม่ได้รับทุกคน ตนไปยื่นหนังสือที่กระทรวงการคลังว่างบพอไม่ต้องกู้ แต่ให้ลดงบสถาบันกษัตริย์และกองทัพ
เรื่องการเยียวยาก็ไม่ได้รับทุกคน พร้อมทั้งกล่าวโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้วยว่าไม่เห็นหัวประชาชน เอาสถาบันกษัตริย์มาเป็นเครื่องมือผิดปากผู้ที่เห็นต่าง ยัดเยียด ม.112 ทั้งที่ไม่หมิ่นแต่เป็นความจริงที่รับไม่ได้ และถ้าไม่อยากให้ประชาชนวิจารณ์ก็ให้ยกเลิก ม.112 ก่อนที่จะประกาศเป็น Republic of Thailand และยืนยัน 3 ข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีออกไปให้เร็วที่สุด แก้รัฐธรรมนูญมาจากประชาชน ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ เรื่องการเยียวยาก็ไม่ได้รับทุกคน นี่ไม่ใช่คำขู่แต่ประชาชนคิดไว้แล้ว
ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ในเวลาต่อมา น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำกลุ่มราษฎร ขึ้นปราศรัยต่อพร้อมระบุว่า จากการชุมนุมไปเมื่อวันที่ 9 ก.พ. เพื่อนเราถูกจับเข้าคุกอีกครั้ง ซึ่งวันนี้ก็มีคนถูกจับอีกเพราะชูป้ายผ้า อย่าคิดว่าโควิด-19 จะทำให้เราลืมข้อเรียกร้อง เพราะข้อเรียกร้องของเรายังเหมือนเดิม ข้อเรียกร้องที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุด คือ ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ต้องอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ หลังจากนั้น น.ส.ปนัสยา ได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมลุกเดินจากหน้าหอศิลป์ฯ ไปยัง สน.ปทุมวัน เพื่อติดตามเรื่องเพื่อนที่ถูกจับ
ประกาศให้เจ้าหน้าที่ปล่อยเพื่อนที่ถูกจับกุม เมื่อแกนนำและกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางกันมาถึง สน.ปทุมวัน ก็ประกาศให้เจ้าหน้าที่ปล่อยเพื่อนที่ถูกจับกุม ถ้าหากไม่มีการปล่อยตัวกลุ่มผู้ชุมนุมจะบุกเข้าไปใน สน.ล่าสุดมีรายงานแจ้งว่า 8 คน ได้รับการปล่อยตัวแล้ว ยังเหลืออีก 2 คน ซึ่งเป็นเยาวชนยังไม่ได้รับการปบ่อยตัว จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมก็ตั้งเวทีปราศรัยหน้า สน.ปทุมวัน
เสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น ในระหว่างที่มีการรวมตัวกันหน้าบริเวณ สน.ปทุมวัน อยู่นั้น ได้มีเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น 3 ครั้ง บริเวณจุฬา ซอย5 ด้านหลัง สน.ปทุมวัน ทำให้ประชาชนและกลุ่มผู้ที่ชุมนุมอยู่ขณะนั้นแตกตื่น และวิ่งหนีกันอลหม่าน พร้อมทั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากเหตุการณ์นี้ บ้างก็อ้างว่าถูกแก๊สน้ำตา ซึ่งไม่ทราบที่มาที่ไป
เครดิตภาพ : แนวหน้า, มติชนออนไลน์, สยามรัฐ, กรุงเทพธุรกิจ
////////////////////////////////////////////////////////////