สภาวะการขาดแคลนวัคซีนในขณะนี้ สร้างความกังวลใจให้กับ WHO หรือองค์การอนามัยโลกเป็นอย่างมาก เนื่องจากการแพร่ระบาดยังคงแพร่กระจายอย่างไม่มีทีท่าว่าจะน้อยลง ถึงแม้ว่าขณะนี้จะมีการเริ่มฉีดวัคซีนของหลายประเทศแล้วก็ตามที
Dr. Tedros Adhanom Ghebreyesus จาก WHO กล่าวในที่ประชุม Davos Agendaว่า “ชาตินิยมจากวัคซีน อาจนำไปสู่การฟื้นฟูที่ยืดเยื้อ” และ การกักตุนวัคซีนจะทำให้กระทบการฟื้นตัวของธุรกิจอย่างแน่นอน และมีคำกล่าวของMariangela Simao รองหัวหน้า WHO ว่า “เป็นแนวโน้มที่น่ากังวลมาก”
EU กำลังทำอะไรอยู่ ในสถานการณ์การขาดแคลนวัคซีน และปัญหาการส่งออกในหลายประเทศ รวมถึงสหราชอาณาจักรหรือแม้แต่สหภาพยุโรปเอง EU กำลังให้คำแนะนำเกี่ยวกับการควบคุมการส่งออก ท่ามกลางการขาดแคลนวัคซีนโคโรนาไวรัสที่ผลิตโดยกลุ่มสหภาพยุโรป
ในขณะนี้สหภาพยุโรปกำลังถูกบังคับการกำหนดข้อบังคับการส่งออกวัคซีนในการข้ามพรมแดนหลังจากมีการวิจารณ์อย่างรุนแรงจากลอนดอนและดับลิน ถึงข้อกำหนดบางตัวที่อาจก่อให้เกิดความโกลาหลในการส่งออกและรับวัคซีน แต่ในขณะเดียวกันสหภาพยุโรปออกมายืนยันว่าการควบคุมที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเพียงการควบคุมเพียงชั่วคราวเท่านั้น
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ขณะนี้ เกิดข้อพิพาทสาธารณะเกิดขึ้นระหว่างสหภาพยุโรปกับ AstraZeneca บริษัทผู้ผลิตยาและวัคซีนสัญชาติอังกฤษ ในเรื่องการกระจายวัคซีนที่เป็นไปอย่างล่าช้า
ซึ่งก่อนหน้านี้คณะกรรมาธิการได้ตกลงทำสัญญาผลิตวัคซีนแบบลับลับกับ AstraZeneca สิ่งนี้สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าบริษัทผลิตยาไม่ได้ประสบความล้มเหลวแบบที่กล่าวอ้าง
ปัจจุบันนี้มีวัคซีนที่ถูกผลิตในเบลเยี่ยมอย่างเช่น Pfizer กำลังถูกจัดส่งไปยังสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป โดยมีวัคซีนเพียงบางชนิดที่ผลิตในอังกฤษของ AstraZenece ส่งออกไปยังสหภาพยุโรปที่ถูกกำหนดภายใต้สัญญาพลเมือง
ในขณะนี้ปัญหาของ Pfizer ยังคงอยู่ที่การผลิตวัคซีนไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้ Pfizer ต้องขยายฐานการผลิต ที่ตอนนี้จะมีการขยายการเปิดโรงงานผลิตอีกแห่งที่ Puurs ในเบลเยี่ยม
การแก้ไขข้อกำหนดชั่วคราวเรื่องการยกเว้นการควบคุมการส่งออกของบางประเทศ สหภาพยุโรปได้มีการให้ได้รับการยกเว้นบางส่วน 92 ประเภทจากทั้งหมดและรวมไปถึงการบริจาควัคซีนในโครงการระดับโลกอย่าง Covax ที่มีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือประเทศที่ยากจนกว่า
ตัวอย่างประเทศที่ได้รับการยกเว้น เช่น สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศทางแถบตะวันตกในคาบสมุทรบอลข่านของนอร์เวย์ แอฟริกาเหนือ หรือแม้กระทั่งเลบานอน และอินสราเอล รวมถึงประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียน
มีการให้ความเห็นจากบางประเทศเช่น เยอรมันนี ที่ยังคงยืนกรานให้สหภาพยุโรปเป็นผู้ตัดสินใจว่า บริษัทผู้ผลิตวัคซีนในสหภาพยุโรป สามารถส่งออกไปยังประเทศใดได้บ้างในขณะนี้และสามารถทำการส่งออกได้จริงหรือไม่
บทสรุปของการควบคุมการส่งออกในตอนนี้ได้กลายเป็นนโยบายของสหภาพยุโรป ที่ไม่อาจหาสาเหตุที่ชัดเจนได้ว่า วัคซีนที่ได้รับอย่างล่าช้าและไม่เพียงพอ มันอาจเป็นผลกระทบจากนโยบายหรือเป็นวัคซีนการเมืองของสหภาพยุโรปกันแน่
Credit by :