การเข้าสู่การแพร่ระบาดหนักสำหรับคลื่นลูกที่ 3 เข้ามาพร้อมกับปัญหาด้านสุขภาพจิตของประชาชนชาวฝรั่งเศสที่รุนแรงของการแพร่ระบาดที่ซับซ้อน
Emmanuel Macron ประธานาธิบดีของฝรั่งเศส มีการประกาศสภาวะฉุกเฉินหรือเคอร์ฟิวส์อีกครั้งหลังจากากรตรวจพบ “การแพร่ระบาดในการแพร่ระบาด” จากสายพันธ์ุใหม่ในสหราชอาณาจักร จัดว่าเป็นการแพร่ระบาดในรอบที่ 3 ซึ่งมีความอันตรายมากขึ้นและเข้าถึงการเสียชีวิตได้เร็วขึ้นหากพวกเขาไม่สามารถควบคุมได้
การถูกจำกัดการเดินทางในประเทศอีกครั้ง กับการถูกระงับอิสระภาพที่ก่อนหน้านี้มีการผ่อนปรนในบางส่วน แต่ในขณะนี้มีคำสั่งให้มีการล็อคดาวน์อีกครั้ง เพื่อการควบคุมที่เข้มแข็ง
การถูกวิจารณ์การทำงานของประธานาธิบดีฝรั่งเศสจากหลาย ๆ ฝ่ายเกี่ยวกับการตัดสินที่จะไม่ใช้วิธีการปิดกั้นในระดับชาติ โดยเลือกที่จะให้การควบคุมการปิดกั้นในระดับภูมิภาคที่มักจะดูเหมือนไม่ครอบคลุม
นอกเหนือจากการถูกวิจารณ์ในเรื่องของการตัดสินใจปิดกั้น ยังมีในเรื่องของการให้วัคซีนสำหรับช่วงวัยที่ไม่ควรจะเป็น
แต่อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีกล่าวว่า เขาได้เลือกทางที่ถูกต้องสำหรับประชาชนแล้ว ในขณะนี้ผู้ป่วยด้วยโควิท-19ที่อยู่ในห้องผู้ป่วยหนักขนาดนี้ อยู่ในช่วงวัยต่ำกว่าอายุ 65 ปี และเขาได้ดำเนินการเร่งการฉีดวัคซีนให้รวดเร็วขึันซึ่งในขณะนี้ทุกอย่างเริ่มไปต่อได้ดี
ในขณะที่การตัดสินใจของ Macron เขาต้องการให้มีการฉีดให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 65 ปี ก่อนที่เป็นช่วงวัยที่ยังสามารถทำงานสำหรับอนาคต และเป็นจำนวนประชากรที่มีเป็นจำนวนมากในประเทศ ในเวลาเดียวกันเยอรมัน หรือประเทศในยุโรปอื่น ๆ ยังคงฉีดให้กับผู้คนที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ทำให้การวิจารณ์ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
แต่อย่างไรก็ตาม Macron ยังคงเดินหน้าขยายหัวข้อ “การเสริมการชลอตัว” ซึ่งเดิมกำหนดไว้สำหรับ 19 ภูมิภาคในฝรั่งเศส แต่ตอนนี้ไม่เพียงพอ การชลอตัวถูกใช้ในเขตปริมณฑลที่ในตอนนี้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
โดยกฏใหม่ของการชลอตัวจะมีผลใช้เป็นเวลา 4 สัปดาห์
เขาบอกว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนยังคงดำเนินไปควบคู่กับการเสริมการชลอตัวของกฏใหม่ของฝรั่งเศส เนื่องจากต้องแข่งกับเวลาในตอนนี้กับการแพร่ระบาดซ้อนการแพร่ระบาดที่อาจจะทำให้ฝรั่งเศสต้องเข้าสู่วิกฤตที่หนักมากกว่าเดิม
Credit by :
https://edition.cnn.com/2021/03/31/europe/france-macron-lockdown-coronavirus-intl/index.html
Credit ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ