ประท้วงต่อต้านรัฐประหาร ดูเหมือนว่าสถานการณ์การชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐประหาร ในประเทศเมียนมา จะไม่มีวันสิ้นสุด แถมยังทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น แม้ที่ผ่านมาจะมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์การประท้วงมาแล้ว ล่าสุดกองกำลังรักษาความมั่นคงของเมียนมายิงทั้งกระสุนยางและกระสุนจริงใส่ผู้ประท้วง โดยรายงานว่ามีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีสวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
สลายการชุมนุม โดยกองกำลังความมั่นคงของเมียนมา ยังคงใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหารอย่างต่อเนื่อง กระทั่งมีผู้ประท้วงโดนยิงเสียชีวิต 3 คน ที่เมืองทวาย บาดเจ็บอีกหลายสิบ ผู้ชุมนุมที่ย่างกุ้งยังไม่ทันตั้งขบวนก็โดนยิงขับไล่
เจ้าหน้าที่ตอบโต้ผู้ประท้วง ซึ่งในเมืองทวายนั้นมีประชาชนนับหมื่นคนออกมารวมตัวกันตามท้องถนน เพื่อต่อต้านรัฐประหาร ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต่างฉีดน้ำแรงดันสูงสู้ใส่ผู้ประท้วง เพื่อเป็นการสลายการชุมนุม เช่นเดียวกับที่เมือง มัณฑเลย์ ประชาชนพากันนำสิ่งของออกมาวางกีดขวางบนถนน พร้อมตะโกนต่อต้านรัฐประหาร ขณะเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่ตอบโต้ผู้ประท้วงอย่างรุนแรง ด้วยการยิงแก๊สน้ำตา ระเบิดแสง และฉีดน้ำแรงดันสูงใส่ผู้ประท้วง จนมีรายงานผู้เสียชีวิตถึง 2 คน
ใช้กระสุนจริงยิงใส่ผู้ชุมนุม ส่วนที่ย่างกุ้ง เมืองศูนย์กลางการค้าของเมียนมา เจ้าหน้าที่เริ่มขับไล่ผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งใจกลางเมือง แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะหลังจากนั้นผู้ชุมนุมก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้กระสุนจริงยิงใส่ผู้ชุมนุมเพื่อเป็นการสลายการชุมนุมในครั้งนี้
เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย โดยมีการเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์แสดงให้เห็นว่าประชาชนหลายคนที่มาร่วมประท้วงในครั้งนี้ ต่างได้รับบาดเจ็บจากกระสุนจริง ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 30 ราย
นองเลือด ซึ่งทางสำนักงานสิทธิมนุษยชนของยูเอ็น ระบุในแถลงการณ์ว่า ตำรวจยิงปืนใส่ผู้ประท้วงเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย บาดเจ็บกว่า 30 ราย นับเป็นการปราบปรามการนองเลือดที่สุดนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ทั้งยังระบุอีกว่าเจ้าหน้าที่ใช้กระสุนจริงยิงใส่ผู้ชุมนุมในเมือง ย่างกุ้ง, มัณฑะเลย์, ทวาย, มะริด, พะโค และปะโกะกู รวมถึงการยิงแก๊สน้ำตา, ระเบิดแสง และระเบิดเสียงกับผู้ชุมนุมอีกด้วย
ประท้วงในเมียนมา พร้อมทั้งประณามกับการใช้กำลังอย่างรุนแรงที่เพิ่มขึ้นกับการประท้วงในเมียนมา และเรียกร้องให้กองทัพยุติการใช้กำลังกับผู้ประท้วงอย่างสันติโดยทันที ทั้งนี้ประชาชนชาวเมียนมามีสิทธิที่จะชุมนุมอย่างสันติ และเรียกร้องการฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตย์ได้ และต้องได้รับความเคารพจากทหารและตำรวจ ไม่ใช่ประสบกับความรุนแรงและการปราบปรามนองเลือดเช่นนี้
ถูกควบคุมตัว นอกจากนี้ทางสมาคมช่วยเหลืออิสระนักโทษการเมือง รายงานเพิ่มเติมว่า มีผู้ถูกควบคุมตัวจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ประมาณ 1,000 คน พวกเขาสามารถระบุตัวตนได้ 270คน ทำให้จำนวนคนทั้งหมดที่กลุ่มนี้ยืนยันว่าถูกจับกุม ถูกตั้งข้อหาหรือถูกตัดสินจำคุกนับตั้งแต่เริ่มการรัฐประหาร จำนวน 1,132 คน
กองกำลังรักษาความมั่นคงเมียนมา ด้าน “นายแอนโทนี บลิงเคน” รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้ประณามกองกำลังรักษาความมั่นคงเมียนมา ใช้ความรุนแรงอย่างน่ารังเกียจ เช่นเดียวกับ “นายมาร์ก การ์โน” รัฐมนตรีต่างประเทศแคนนาดา ที่ระบุว่า การที่กองทัพใช้กำลังถึงตายกับประชาชนของตน เป็นเรื่องที่น่าตกใจ
เครดิตภาพ : ไทยโพสต์, สยามรัฐ, www.nationtv.tv, www.pptvhd36.com
//////////////////////////////////////////////////////////