ในขณะนี้สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิท-19ที่ยังคงบานปลายทั่วโลก ไม่มีทีท่าว่ามีทางออกอย่างเฉียบขาด แต่ในเวลาเดียวกันการเริ่มต้นทดสอบ และผลิตวัคซีนก็สำเร็จออกมาได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ทว่าทุกอย่างยังคงใหม่สำหรับเคสใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นทุกวัน
เรามาดูกันว่าวัคซีน 6 ชนิดที่ตอนนี้นำออกมาใช้งานจริงสำหรับโควิท-19 เรียงตามลำดับประสิทธิภาพ
1. Pfizer วัคซีนของเยอรมัน-อเมริกา ประสิทธิภาพบอกไว้ว่าได้ผล 95% ใช้จำนวน 2 โดสแต่ก็มีผู้เสียชีวิตหลัง
จากการฉีดวัคซีน Pfizer ไปถึง 30 คนด้วยกัน
2. Moderna วัคซีนของอเมริกา ประสิทธิภาพ 94.5% ใช้จำนวน 2 โดส โดยมีระยะห่างกัน 4 สัปดาห์
3. Sputnik V วัคซีนของรัสเซีย ประสิทธิภาพ 91.4% ใช้จำนวน 2 โดส โดยมีระยะห่างกัน 3 สัปดาห์
4. AstraZeneca วัคซีนของอังกฤษ ประสิทธิภาพ 62-90% ใช้จำนวน 2 โดส โดยมีระยะห่างกัน 4 สัปดาห์
5. Sinovac วัคซีนของจีน 80-90% (ประเทศไทยใช้) ใช้จำนวน 2 โดส โดยมีระยะห่างกัน 2 สัปดาห์
6. Sinopharm วัคซีนของจีน 79.34% ใช้จำนวน 2 โดส โดยมีระยะห่างกัน 3 สัปดาห์
Pfizer Moderna Sputnik V
AstraZeneca Sinovac Sinopharm
แต่ทว่า ยังไม่เป็นที่แน่นอนถึงประสิทธิภาพที่แท้จริง จากการตรวจสอบบางชนิดประสิทธิภาพแจ้งถึง 90-95% แต่ผลจาการทดสอบจริงออกมาเพียง 60-65% นั่นหมายความว่ายังไม่สามารถหาความชัดเจนได้
โดยเฉพาะ Sinovac นายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ นายหวัง ยี่ ได้สัญญาว่าจะให้กับฟิลิปปินส์เป็นจำนวน 20-50 ล้านโดส และยังสัญญากับอีกหลายประเทศทั่วโลก
วิธีการฉีด ทั้ง 6 ยี่ห้อนี้ต้องฉีดเป็นจำนวนทั้งหมด 2 โดส โดยโดสแรกจะให้ประสิทธิภาพการทำงานอยู่ที่ 35% และครอบคลุมและป้องกันได้ในโดสที่ 2 ในประสิทธิภาพการควบคุมสมบูรณ์ได้ที่ 95%
ในการเก็บรักษาโดยเฉพาะ Pfizer และ Moderna ต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิที่ต่ำมากตั้งแต่ -70 องศา ไปจนถึง -20 องศา ส่วนที่เหลือสามารถเก็บได้ในอุณหภูมิที่เย็น 2-8 องศา
วัคซีนที่นิยมใช้กันมากที่สุดในกลุ่มยุโรปตะวันออกคือ Sputnik V ที่รัสเซียเป็นผู้ผลิต และอีกยี่ห้อ AstraZeneca ใช้เยอะ เนื่องจากราคาถูกเนื่องจากมีข้อตกลงกับทางมหาวิทยาลัยออกฟอร์ดไว้ว่าจะไม่คิดราคาวัคซีนในราคาที่แพง
และอีกยี่ห้อที่ได้รับความนิยมมากไม่แพ้กันคือ Sinovac
Sinovac เป็นวัคซีนที่จีนเป็นผู้ผลิต และถูกใช้เป็นวัคซีนทางการฑูตด้วยการเยือนแต่ละประเทศและให้คำมั่นสัญญา ทั้งเรื่องของส่วนลดราคาหรือแม้กระทั่งแจกฟรีก็มี
ดังนั้นด้วยราคาวัคซีนที่ถูก ทำให้ Pfizer เกิดปัญหาที่เริ่มมีคนสั่งซื้อน้อยด้วยเหตุที่ Pfizer ผลิตโดยเอกชนทำให้ต้องมีผลกำไรจากการขาย ในขณะที่ Sinovac และ Sinopharm ผลิตโดยรัฐบาลจีน
Credit by :