กล่าวได้ว่า ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่เลวร้าย และเป็นปีที่ฝันร้ายระดับโลกจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไว้รัสโคโรนา หรือ โควิท-19 ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบสามล้านคนทั่วโลก และทำให้การใช้ชีวิตของผู้คนบนโลกต้องเปลี่ยนไปแบบสิ้นเชิง
เหตุการณ์ความร้ายแรงที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา ทำลายสุขภาพจิตของผู้คนไปค่อนข้างมากนอกเหนือจากการทำลายเศรษฐกิจ แต่ในความเลวร้าย ก็ยังคงมีการยืนอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก
ฟินแลนด์ ประเทศที่ได้รับการจัดอันดับเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดสี่ปีติดต่อกัน รองลงมาเป็นไอซ์แลนด์ เดนมาร์ก สวิสเซอร์แลนด์ และเนเธอแลนด์ ตามการจัดอันดับของ Gallup World Poll
และในขณะเดียวกันการจัดอันดับของประเทศอื่นก็ยังคงมีอยู่ซึ่งสหรัฐอเมริกาที่มีการติดเชื้อในอันดับต้น ๆ ก็ยังคงไล่อันดับขึ้นมาเป็นประเทศที่มีความสุขอันดับที่ 14 จากก่อนหน้านี้เป็นอันดับที่ 18 และสำหรับสหราชอาณาจักรตกจากอันดับที่ 13 ไปอยู่ในอันดับที่ 18 ในขณะที่ออสเตรเลียมาเป็นอันดับที่ 12
Jeffrey Sachs ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาอย่างยังยืนแห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบียกล่าวว่า “เราจำเป็นต้องเรียนรู้จากโควิท-19 อย่างเร่งด่วน การระบาดขนาดใหญ่ทำให้เรานึกถึงการคุกคามด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก ความจำเป็นเร่งด่วนในการร่วมมือกันและความยากลำบากในการบรรลุความร่วมมือกันในแต่ละประเทศทั่วโลก”
มีการรายงานเกี่ยวกับผลของการลดลงด้านสุขภาพจิตของประชาชนแต่ละประเทศ รวมไปถึงสหราชอาณาจักร มีปัญหาด้านสุขภาพจิตในระหว่างการแพร่ระบาดเกิดขึ้นอย่างยาวนานกับผู้คนในทุกประเทศทั่วโลก มีจำนวนพุ่งสูงขึ้นกว่าก่อนการแพร่ระบาดโควิท-19 สูงถึงเกือบ 50%
แต่ทว่าความสุขที่เกิดขึ้นในระหว่างการแพร่ระบาดไม่ได้อยู่ที่การจับจ่ายใช้เงิน หรือแม้กระทั่งการเชื่อมต่อทางสังคมอีกต่อไป ความสุขของผู้คนในภาวะโรคระบาดเกิดขึ้นจากการได้เป็นตัวตนของตัวเองที่แท้จริง
และแน่นอนว่า เมื่อมีการจัดอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก ก็ต้องมีประเทศที่ไม่มีความสุขมากที่สุดในโลก นั่นคือประเทศอัฟกานิสถาน ซิมบัคเว และตามมาด้วย บอตสวานา
Credit by :