“เด็ก” กับไวรัส เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยน่ากังวลใจเด็กจะมีแนวโน้มติดเชื้อโควิท-19 น้อยกว่าผู้ใหญ่ แต่เด็กส่วนใหญ่กับวิกฤตไวรัส เด็กมักจะเรียกได้ว่าเป็น “เหยื่อ” ของสถานการณ์นี้ และเป็น “เหยื่อ” ของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการถูกทอดทิ้ง ปัญหาด้านสุขภาพจิต รวมไปถึงการพัฒนาของทารกแรกเกิด
การระบาดใหญ่ของไวรัสโควิท-19 มีผลกระทบโดยตรงถึงเด็ก จากข้อมูลขององค์กรการกุศลเพื่อเด็กในสหราชอาณาจักรพบว่า เปอร์เซ็นต์ของการขอคำปรึกษาให้กับเด็ก มีปริมาณต้องการคำปรึกษาเพิ่มมากขึ้นถึง 10% ตั้งแต่มีการระบาดครั้งใหญ่ของไวรัส พวกเขาบอกว่า “มันกำลังส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง”
โดยเด็กส่วนใหญ่จะต้องพบกับความรู้สึกเหงา และโดดเดี่ยว เนื่องจากการถูกบังคับให้อยู่กับบ้าน หรือแม้กระทั่งการประสบกับสภาวะทางอารมณ์ของคนในครอบครัว ที่พวกเขาเหล่านี้ต้องเผชิญกับสภาวะทางการเงิน การตกงานหรือแม้กระทั่งการกระทบกระทั่งกันในครอบครัวจากความตึงเครียด
ข้อมูลการรายงานสุขภาพจิตจาก NHS (National Health Service) หน่วยงานรักษาพยาบาลหนึ่งในสี่ของระบบรักาษาพยาบาลแห่งชาติในสหราชอาณาจักร รายงานว่า ปัญหาสุขภาพจิตของเด็กอยู่ในระหว่างวัย 5-16 ปี มีอัตราการเกิดปัญหาสุขภาพจิตมากว่าเด็กผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าเป็นอัตราส่วนถึง 1 ใน 6 การสถิติช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
เด็กที่อยู่ในระดับโตขึ้นมาจากช่วงวัยข้างต้น จะเริ่มมีปัญหาความกังวลใจเกี่ยวกับอนาคตของพวกเขา มีการวิจัยตลาดถึงพฤติกรรมช่วงวัยของ 2 บริษัท YouGov และ Prince’s Trust จัดทำใน The Youth Index พวกเขาพบกว่าจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งของหนุ่มสาวในวันเดียวกัน มีความกังวลอยู่เกือบตลอดเวลาอยู่ในระดับสูง และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
และผลกระทบในเด็กอีกวัย “เด็กแรกเกิด” สถานการณ์ไวรัสทำให้ความเครียดในครอบครัว สร้างความละเลยพัฒนาการของเด็กแรกเกิด ซึ่งพัฒนาการที่สำคัญในช่วงแรก หรือสำหรับหนึ่งพันวันแรกของชีวิต มีความสำคัญมาก
โดยปรกติ นักสาธารณะสุขของอังกฤษจะตระเวนตรวจเยี่ยมและให้คำปรึกษากับประชาชนที่บ้าน เรียกกันว่า The Institute of Health Visiting (สถาบันเพื่อการเพื่อการเยี่ยมดูแลสุขภาพ) แต่หลังจากการแพร่ระบาด การติดต่อในลักษณะนี้ต้องหยุดชะงักลง เพราะนักบริการสาธารณะสุขจะถูกทำงานสำหรับผู้ติดเชื้อและรับมือกับโควิท-19
สิ่งที่สำคัญสำหรับเด็กแรกเกิด คือพ่อแม่มือใหม่ที่จะต้องหยุดการปฏิสัมพันธ์ชั่วคราว เนื่องจากการต้องปฏิบัติตามการเว้นระยะห่างทางสังคม การเกิดขึ้นของพฤติกรรมจำเป็นทำให้มีผลกระทบต่อเด็กแรกเกิดถึงแม้ว่าเด็กเหล่านี้ไม่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโดยตรง แต่ได้รับผลกระทบในทางอ้อมจากครอบครัว
กลุ่มเด็กที่น่ากังวลไม่แพ้เด็กแรกเกิด แต่การเอาใจใส่มีมากพอกับเด็กแรกเกิด นั่นคือ “เด็กพิการ” เด็กเหล่านี้มีกว่า 1 ล้านคนในสหราชอาณาจักร ถือว่าเป็นประชากรเด็กกลุ่มใหญ่ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาด เด็กพิการ ต้องการการดูแลในแบบเฉพาะทาง ซึ่งพวกเขาต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้เชี่ยวชาญ แต่การต้องเว้นระยะห่าง กับการถูกกักตัวไม่สามารถออกมาปฏิสัมพันธ์กันได้ สร้างปัญหาให้กับเด็กเหล่านี้ไม่เว้นแม้กระทั่งการเรียนหนังสือของพวกเขา
กลุ่มสุดท้ายที่ถือเป็นเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงที่สุด “เด็กถูกทารุณและถูกทอดทิ้ง” ที่ในปัจจุบันสูงถึงราวสองล้านคน การเสียชีวิตของเด็กด้วยการถูกทารุณ และการถูกทารุณทางเพศ
เด็กกลุ่มนี้ัมักจะมีชีวิตที่ครอบครัวอยู่ในสภาวะที่มีปัญหาหลัก ๆ เช่น การทำร้ายร่างกายโดยพ่อแม่ การใช้ยาเสพติดของพ่อแม่ หรือการติดแอลกอฮอลล์ที่รุนแรง และปัญหาสุขภาพจิตของผู้เป็นพ่อ
กลุ่มเพื่อสุขภาพเด็กนานาชาติ International Child Health Group กลุ่มนี้ทำงานเพื่อช่วยเหลือเด็กที่อยู่พื้นที่หรือประเทศที่มีรายได้ปานกลาง และไม่มากนัก หรืออยู่ในระดับรายได้ต่ำ โดยคนส่วนใหญ่กลับมองว่าเด็กเป็น
กลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดในครั้งนี้ มันเป็นความคิดที่ผิด
ลองคิดดูว่า หากวันที่พวกเขาเติบโตมา ธรรมชาติของเด็กคือการเล่นด้วยกัน มีปฏิสัมพันธ์ในรูปแบบกิจกรรมการเล่นกับคนหลายคนหรือมากกว่าสองคนขึ้นไป แต่แล้วพวกเขากลับพบว่า “การเล่นกับเพื่อนเป็นความผิด” มันทำให้เด็กเหล่านี้เกิดความสับสนในการใช้ชีวิตในอนาคตของพวกเขาในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน
Credit by :