โดยกล่าวว่า ต้องเอาไว้เยียวยา ฟื้นฟูเศรษฐกิจในอนาคต และคาดว่า การท่องเที่ยวในประเทศไทย จะโตขึ้น 3%
โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังงาน Thailand Smart money ถึงกระแสที่รัฐบาลมีข่าวว่า จะจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาทเพิ่มเติมอีกครั้ง ภายใต้ชื่อโครงการที่เคยใช้มาแล้ว คือโครงการ เราไม่ทิ้งกัน ซึ่งโครงการดังกล่าว ให้เงินช่วยเหลือ ผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากการแพร่ระบาด ของไวรัสโควิด- 19 เดือนละ 5,000 บาท เป็นจำนวน 3 เดือน รวมเป็นเงิน 15,000 บาท เนื่องจาก ปัจจุบัน กำลังมีการระบาดของโรคโควิด 19 ขึ้นอีกรอบ โดยได้กล่าวว่า ยังไม่มีแนวคิดในเรื่องดังกล่าว เพราะเห็นว่า ยังไม่มีความจำเป็น ที่ต้องใช้มาตรการเยียวยา ด้วยการแจกเงินในช่วงนี้

และยังได้กล่าวว่า ” ผมไม่อยากให้คิดถึงสถานการณ์ที่รุนแรงไปก่อน ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญและเดินหน้า คือการฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะต่อไป ให้กลับมาเป็นปกติให้ได้ ทั้งนี้สำหรับกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า มีแผนในการรับมืออย่างเต็มที่ หากเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น โดยเฉพาะ เม็ดเงินงบประมาณที่ต้องใช้ พระราชกำหนด พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทนั้น เพียงพอที่จะเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจในอนาคตได้ ถ้าหากเกิดการของ covid-19 รอบใหม่ เชื่อว่าฝ่ายมั่นคงดูแลได้ และ อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันเข้มงวด อย่างไรก็ตาม ตนมองว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็น ที่ต้องใช้มาตรการอื่นมาเสริม เนื่องจากมาตรการที่มีอยู่แล้ว ยังรับมือได้ ส่วนเรื่องเงินกู้ 1 ล้านบาท ก็ยังเหลือวงเงิน ที่สามารถนำมาใช้ยา ได้อีก 300,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถใช้ได้ถึง สิ้นเดือนกันยายน 2564
นายอาคมยังกล่าวต่อว่า ยังคงเชื่อว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวในไทย จะกลับมาฟื้นฟูในปีหน้า เลยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่จะกลับเข้ามาในไทยอย่างน้อย 1 ใน 5 สีประมาณ 8 ล้านคน ของจำนวนนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาในปี 2562 ที่อยู่ที่ 40 ล้านคอน และยังเชื่ออีกว่า จะมีนักท่องเที่ยวไทย กลับมาท่องเที่ยวเดินทาง เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ในปีหน้าเช่นกัน โดยเฉพาะปีนี้ ที่คาดว่า จะกลับมาเดินทางท่องเที่ยวประมาณครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะเห็นได้จากช่วงหยุดยาว ในเดือนธันวาคม นี้ ยังคงมีปริมาณ ของนักท่องเที่ยว ในต่างจังหวัด เป็นจำนวนมาก แม้จะมีการระบาดของ covid 19 กลับมาก็ตาม
ยังมองอีกว่ามาตรการ เราเที่ยวด้วยกัน ในช่วยกระตุ้นให้ประชาชน ออกเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งโครงการนี้ มีการขยายถึง เดือนเมษายนปีหน้า จะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทาง มากขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตามคาดว่า ในปีหน้า การ ท่องเที่ยวในประเทศ จะมีอัตราการเติบโตขึ้นอีก 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP หลังจากในปีนี้ การท่องเที่ยวในประเทศ กลับมาต่อ 3% เช่นเดียวกัน
โดยคาดว่าในปี 2564 สภาพเศรษฐกิจของไทยจะพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ร้านผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในไตรมาสที่สองของปีนี้ ซึ่งเริ่มจะเห็นสัญญาณเศรษฐกิจดีขึ้นในไตรมาสที่ 3 และรอบติดตามตัวเลขในไตรมาสที่ 4 ซึ่งรัฐบาลได้ออกมาตรการ มาการ์ตูนการบริโภคในประเทศ ทำโครงการหลายๆโครงการ เช่น คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ช้อปดีมีคืน และอีกหลายโครงการที่ไม่ได้กล่าวถึง รวมไปถึงการเพิ่มกำลังซื้อ ให้กับผู้ถือบัตร สวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน 500 บาท เพิ่มอีก 3 เดือน จนถึงมีนาคม 2564 ซึ่งแน่นอนว่า จะมีผลต่อการจับจ่ายใช้สอย ในประเทศดีขึ้นอย่างแน่นอน เชื่อ ว่า ในปีหน้า การท่องเที่ยว ก็จะกลับมาคึกคัก ซึ่งตอนนี้ ประเทศไทย พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้ว แต่ต้องดูประเทศอื่น และสถานการณ์โลกด้วยว่า มีความพร้อมด้วยหรือไม่
กระทรวงการคลัง จะเข้าหารือกับ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) และ ธนาคารแห่งประเทศไทย ในเรื่องที่จะ พิจารณาสินเชื่อรูปแบบใหม่ โดยให้ บสย. ค้ำประกันให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ให้มากขึ้น ซึ่งเป็นการต่อยอดจากโครงการ ค้ำประกันสินเชื่อ pgs9 ที่คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติวงเงินโอนรวม 170,000 ล้านบาท
ในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ในรอบ 2 นี้ หวังว่าทุกท่าน จะผ่านมันไปได้ด้วยดี เพราะว่า เราผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้กล่าวไว้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้