วันที่ 27 ม.ค.64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก(ศบค.) สรุปผลของการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจผ่อนคลายตามสภาวะการระบาดของเชื้อโควิด 19 ออกมามี 3 หัวข้อ คือ
1.ข้อเสนอจากกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ในเรื่องแนวปฏิบัติเพื่อผ่อนคลายมาตรการโควิดระลอกใหม่เป็นภาพใหญ่
2.การผ่อนคลายเพิ่มระยะเวลานั่งรับประทานอาหารในร้าน การดื่มสุราในร้านและการแสดงดนตรีสด
3.การเตรียมการเปิดการเรียนการสอนในโรงเรียน หรือสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวง
การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรม
สธ.มีข้อเสนอในการปรับพื้นที่จังหวัดในการควบคุมใหม่ โดยใช้หลักการรูปแบบจังหวัดแนวกันชน กับจังหวัดที่มีความเสี่ยงที่จะกระจายโรคไปพื้นที่อื่น โดยสามารถแบ่งเป็นพื้นที่ควบคุมเป็น 5 ระดับคือ(1)สูงสุดและเข้มงวด,(2)ควบคุมสูงสุด,(3)ควบคุม,(4)เฝ้าระวังสูง และ(5)เฝ้าระวัง
สธ.ได้พิจารณาปรับลดหรือเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการควบคุมตามจังหวัดต่างในประเทศ โดยใช้เกณฑ์ดูสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิดในจังหวัดนั้นๆ โดยให้พิจารณาจากตัวเลขการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ใน 7 วัน 14 วัน หรือ 28 วัน หรือพิจารณาจากสัดส่วนการพบผู้ติดเชื้อน้อยในเกณฑ์น้อยกว่า 1% หรือไม่เกิน 5% ซึ่งจากข้อมูลตั้งแต่มีการระบาดรอบ 2 ที่ผ่านมาหาก ก็มีจังหวัดที่ไม่พบการติดเชื้อภายในช่วงเวลา 7 วันจำนวนหลายจังหวัด และจังหวัดที่ไม่มีการติดเชื้อเลยก็มีอยู่หลายจังหวัด ซึ่งจังหวัดเหล่านี้ก็ต้องผ่อนคลายมาตราการควบคุมให้มากหน่อยเพื่อให้เศรษกิจและปากท้องของประชาชนในจังหวัดเหล่านี้กลับมาสู่สภาพที่ปรกติโดยเร็ว ดังนั้นทางสธ.จึงได้ปรับลด มาตราการการควบคุมใหม่ดังนี้
(1).พื้นที่ควบคุมสุงสุดและเข้มงวด (สีแดง) จากเดิม
มี 5 จังหวัด ปรับเหลือ 1 จังหวัด คือ จังหวัดสมุทรสาคร
ธุรกิจที่ยังต้องปิดเหมือนเดิมอยู่ คือ สถานบริการ ผับบาร์ คาราโอเกะ สนามมวย สถานที่ออกกำลัง กายในร่ม สนามชนไก่ ชนวัว กัดปลา บ่อน สนา พระเครื่อง กิจการอาบอบนวด สปา แพทย์แผนไทย โรงเรียนกวดวิชา สถาบันการศึกษา สนามเด็กเล่น สวนสนุก ตู้เกม รานอินเทอร์ งานประชุมงานเลี้ยง กิจกรรมประเพณี สถานีขนส่งสาธารณะ
ธุรกิจที่เปิดได้บ้างตามระยะเวลา เช่น ตลาดนัด ร้าน อาหารต้องนำกลับไปบริโภคเท่านั้น เปิดไม่เกิน 21.00 น.
ห้างสรรพสินค้าต้องจำกัดเวลาเปิดไม่เกิน 21 น.ศูนย์เด็กเล็ก สถานที่พักผู้สูงวัยที่พักประจำ สถานประกอบการโรงงาน พร้อมกำกับมาตรการป้องกัน โรคในองค์กรและระบบติดตามตัวผู้เดินทางเข้าออกทุกคน
(2).พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) จากเดิม 23 จังหวัดปรับลดเหลือแค่ 4 จังหวัด ได้แก่ กทม.สมุทรปราการ นนทบุรีและปทุมธานี ในส่วนของ ธุรกิจที่ยังต้องปิดอยู่คือ สถานบริการ ผับบาร์ คาราโอเกะ ให้ซื้อไปรับประทานที่อื่นได้ ร้านอาหาร ให้นั่งทานในร้านได้แบบเว้นระยะห่าง เปิดได้ไม่เกิน 23.00 น. จำหน่ายสุราไม่เกิน 23.00 น. แสดงดนตรีได้ งดการเต้นรำ
(3).พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จากเดิม 11 จังหวัด ปรับใหม่ เพิ่มเป็น 20 จังหวัด ได้แก่ ตาก กาญจนบุรี ชัยนาท อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี นครศรีอยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม ราชบุรี เพชรบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้วฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
(4).พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) จากเดิม 38 จังหวัดปรับลดเหลือ17 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร สุโขทัย นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี พังงา สงขลา ยะลา นราธิวาส
(5). พื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) 35 จังหวัด (ภาคเหนือ 11 จังหวัด อีสาน 17 จังหวัด ใต้ 7 จังหวัด) ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูนแม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน พะเยา อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญอุบลราชธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต กระบี่ สตูล ตรัง พัทลุง และปัตตานี
มาตรการต่างๆจะลดหลั่นกันลงมา อย่างประชุมสัมมนา ถ้าเป็นพื้นที่ควบคุมสุงสุดและพื้นที่ควบคุม จำกัดผู้เข้าร่วมไม่เกิน 100 คน งดดื่มสุราแสดงดนตรี ไม่มีเต้นรำ ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังสูงและและและพืนที่เฝ้าระวังให้จำกัดจำนวนไม่เกิน 300 คน แสดงดนตรีได้ งดการเต้นรำ เป็นต้น
ส่วนการจัดการเรียนการสอน พื้นที่อื่นๆ ให้เปิดได้เกือบทั้งหมด ยกเว้น สมุทรสาคร ยังให้ปิดอยู่ ส่วนกทม.และปริมณฑกลให้เปิดได้โดยคำนึงถึงมาตรการป้องกันโรค เช่น สลับเวลาเรียน เว้นระยะห่าง ใช้ออนไลน์เข้ามาเสริม ห้างสรรพสินค้าเปิดได้ แต่ห้ามจัดกิจกรรมในพื้นที่ควบคุมสูงสุด การพนันปิดทุกที่ทุกจังหวัด สถานบริการอาบน้ำอาบอบนวดปิดเฉพาะพื้นที่ควบคุมสุงสุด และพื้นที่ควบคุมส่วนเฝ้าระวังสูงและเฝ้าระวังเปิดได้โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้ สปานวดแผนไทยเปิดได้ในทุกส่วน แต่จำกัดจำนวนตามขนาดพื้นที่ทุกจังหวัด ส่วนสถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง สนามมวยในพื้นที่ควบคุมสุงสุดและควบคุม จัดแข่งขันได้แบบไม่มีผู้ชม สามารถฝึกซ้อมและป้องกันโรคส่วนบุคคลได้ ในส่วนพื้นที่เฝ้าระวังสูงและเฝ้าระวังก็สามารถจัดแข่งได้โดยมีผู้เข้าร่วมชมตามเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งนี้จะได้เสนอ ศบค. ชุดใหญ่ให้พิจารณาในวันที่ 29 ม.ค. ต่อไป
เครดิตเรื่องและภาพ https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_5827113