สธ.ย้ำชัด Hospitel ได้มาตรฐาน ชี้ผู้ป่วยทุกคนต้องได้รับการรักษา

Hospitel จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดจากคลัสเตอร์สถานบันเทิง ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับโรงพยาบาลไม่สามารถรองรับผู้ป่วยที่มีจำนวนมากขึ้นได้ จนทำให้ต้องตั้งโรงพยาบาลสนาม และ นำโรงแรมมาเป็นสถานพยาบาลชั่วคราว หรือ Hospitel ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขการันตีว่าได้มาตรฐาน และเพียงพอสำหรับรองรับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ตรวจและบันทึกอาการผู้ป่วยทุกวัน โดยเรื่องนี้ นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เผยว่า ขณะนี้ ได้นำโรงแรมมาเป็นสถานพยาบาลชั่วคราว (Hospitel) ดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ หรือรักษาในโรงพยาบาลหลัก 3-5 วันแล้วอาการดี โดยมีการตรวจและบันทึกอาการผู้ป่วยทุกวันผ่านเทเลเมดิซีน หรือไลน์กลุ่ม หากอาการเปลี่ยนแปลงจะย้ายกลับโรงพยาบาลหลักทันที มั่นใจได้ว่าผู้ป่วยจะได้รับการรักษาพยาบาลตามมาตรฐาน ช่วยลดแออัดในโรงพยาบาล ซึ่งในขณะนี้มี Hospitel ที่ขึ้นทะเบียนแล้ว 23 แห่ง จำนวน 4,900 เตียง ดูแลผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 2 พันเตียง เตรียมเพิ่มให้ได้ 5-7 พันเตียง ซึ่งจะช่วยลดแออัดในโรงพยาบาล นอกจากนี้กรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้เตรียมเตียงจากโรงพยาบาลทุกสังกัด รวม 6,525 เตียง ใช้แล้ว 3,700 กว่าเตียง ส่วนหนึ่งสำรองไว้สำหรับผู้ที่มีอาการมาก […]
นศ.สาวโอดผลตรวจโควิดผิด ทำให้กลายเป็นผู้เสี่ยงสูง

ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผิด ภายหลังจากที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความถึงความผิดพลาดของสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ที่แจ้งผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผิด โดยแจ้งว่าเจ้าของโพสต์ติดโควิด-19 ก่อนจะเข้รักษาตัวร่วมกับผู้ติดเชื้อรายอื่นๆ ซึ่งในเวลาต่อมาตรวจสอบแน่ชัดว่าไม่ได้ติดเชื้อแต่อย่างใด ส่งผลให้กลายเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในทันที กลายเป็นคนที่มีความเสี่ยงสูง โดยเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ระบุว่า สสจ.เชียงใหม่เป็นคนโทรมาแจ้งผลว่าติดเชื้อ แล้วประสานงานกับทางรพ.ลำปางรับตนเข้ารักษา ตนต้องมานอนรพ.3คืน และจากที่ไม่เสี่ยงกลายเป็นคนที่มีความเสี่ยงสูงกว่าเดิม เพราะได้พักรักษาตัวร่วมห้องกับผู้ติดโควิด กลุ่มเสี่ยงที่เข้ามาตรวจ เข้าใจว่าต้องตรวจกลุ่มเสี่ยงที่เข้ามาตรวจเป็นจำนวนมาก แต่ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบควรมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ เข้าใจว่าทางบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ทำงานกันหนักมาก ที่นำเรื่องนี้มาเผยแพร่ เพราะอยากให้ทุกคนได้เรียนรู้กับบทเรียนนี้ไปด้วยกัน เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับใครทั้งนั้น รับผิดชอบต่อสังคม ตอนแรกที่โทรมาบอกว่าติดโควิด ตนรับผิดชอบต่อสังคมเปิดเผยไทม์ไลน์ทุกอย่างกลัวว่าคนใกล้ชิด, ไปสถานที่เดียวกันจะติด ก็อยากให้ self-monitoring กันไป เข้าใจว่าทุกคนแพนิค และขอบคุณมากจากใจจริงสำหรับคนที่เข้าใจตนตอนเปิดไทม์ไลน์ ในสถานการ์ณแบบนี้ทุกคนต้องดูแลตัวเองกันต่อไป เข้ารักษาและร่วมห้องกับผู้ติดเชื้อ ขณะเดียวกัน นายณรงค์ พินธิสืบ อดีต สจ.ลำปาง ได้เปิดเผยว่า ลูกสาวตน อายุ 22 ปี ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลใน จ.เชียงใหม่ จากนั้นได้รับแจ้งยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงได้เข้ารักษาและร่วมห้องกับผู้ติดเชื้อในโรงพยาบาลลำปาง ซึ่งต่อมาได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่าผลการตรวจไม่ได้ติดเชื้อโควิดแต่อย่างใด ทางโรงพยาบาลจึงได้กลับมากักตัวที่บ้าน 14 วัน ได้รับความกระทบกระเทือนด้านจิตใจ […]
ชาวฮินดูนับล้านรวมตัวร่วมพิธีแบบไร้หน้ากาก ทำอินเดียมีผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งอันดับ 2 ของโลก

ชาวฮินดูนับล้านคนมาร่วมตัวกัน จากภาพที่มีชาวฮินดูนับล้านคนมาร่วมตัวกันที่ เมืองหริทวาระ ทางตอนเหนือของอินเดีย เพื่อร่วมพิธีกุมภเมลา หรือเทศกาลอาบน้ำล้างบาป ในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศอินเดียนั้นมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก จากเหตุการณ์นี้ส่งผลให้มีผู้ต้ดเชื้อเพิ่ม จนทำให้อินเดียขึ้นเป็นอันดับ 2 ของประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด พิธีกุมภเมลา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาวฮินดูเกือบ 1 ล้านคน แห่ไปร่วมพิธีกุมภเมลา หรือเทศกาลอาบน้ำล้างบาป ในเมือง หริทวาระ ทางตอนเหนือของอินเดีย โดยบรรดานาคสาธุ หรือบุรุษเปลือยกาย ตามความเชื่อเรื่องการบูชาพระศิวะอย่างเคร่งครัด และบรรดาชาวฮินดูพากันไปอาบน้ำในแม่น้ำคงคา โดยชาวฮินดูเชื่อว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ บังคับให้ผู้ที่เข้าร่วมพิธีตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งผู้ที่มาเข้าร่วมพิธีในครั้งนี้นั้น ไม่มีผู้ใดสวมใส่หน้ากากอนามัยเลย แม้ว่าสถานการณ์ในประเทศอินเดียนั้น มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก แม้ว่าทางการจะบังคับให้ผู้ที่เข้าร่วมพิธีตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเข้าร่วมงาน แต่ก็ไม่สามารถบังคับใช้มาตรการนี้ได้อย่างเคร่งครัด เนื่องจากมีชาวฮินดูจำนวนมากที่มาร่วมพิธี ไม่มีการรักษาระยะห่าง ด้าน เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบด้านการดูแลความปลอดภัยบริเวณพื้นที่จัดพิธี เผยว่า ทางการร้องขอให้ประชาชนปฏิบัติตามตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด แต่จำนวนผู้ร่วมพิธีที่มากันล้นหลาม ทำให้แทบไม่มีการรักษาระยะห่างได้เลย ประเทศอินเดีย จากเหตุการณ์ที่ชาวฮินดูเกือบ 1 ล้านคน ที่เดินทางเข้าร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนี้ ส่งผลให้ประเทศอินเดียมียอดผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศทั้งสิ้นอย่างน้อย 13.53 ล้านราย โดยขึ้นเป็นอันดับ 2 ของโลกแซงหน้าประเทศบราซิล […]